https://onscene-prod.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/files/styles/cover_photo_1600w/public/2022-08/20220804-1_1.jpg?VersionId=.FsyqUnf.21EObBEhlUAaBltb6iwp7HQ&itok=Df8_F5Nl

ตอนนี้เรียกได้ว่า การเลือกซื้อมือถือหรือโทรศัพท์ เป็นคำถามที่ผมได้รับบ่อยมากๆ ว่าจะซื้อเครื่องไหนดี ราคาเท่าไหร่ หรือยี่ห้ออะไรดีที่จะเหมาะมาเป็นโทรศัพท์มือถือใหม่ของเรา เป็นผมเองก็เลือกยาก แต่วันนี้ TamKung อยากจะมาแนะนำมือถือยี่ห้อหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นน้องใหม่ที่ใครหลายๆ คนอาจะเคยได้ยินชื่อ นั่นคือ Nothing phone (1) นั่นเอง เพราะฉะนั้นในบทความของ TamKung วันนี้จะพาทุกท่านมารู้จักกับ Nothing Phone น่าซื้อหรือไม่อย่างไร มาทำความรู้จักกัน


ต้องขอแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับ Nothing phone (1) กันก่อน โดยเจ้าเครื่องนี้เป็นโทรศัพท์ที่เรียกได้ว่า กระแสการพูดถึงมีมาอย่างล้นหลาม เพราะว่ามันมีความแตกต่างจากโทรศัพท์มือถือรุ่นที่วางขายตามตลาดในปัจจุบัน เป็นของบริษัทอย่าง Nothing ซึ่งเป็นอดีตผู้ก่อนตั้ง OnePlus จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นของ Carl Pei ที่ได้ออกมาตั้งบริษัทใหม่ในปี 2020 ก่อนจะมาเปิดตัวสินค้าอย่าง Nothing phone (1) ซึ่งเป็นที่ฮือฮามากๆ ว่ามันจะออกมาวางขายจริงๆ โดยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2022 ที่ผ่านมา

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220804-1_0003_1-1_9dff75b0-536e-4dbe-a40a-3f8cff1016af_1901x.jpg?itok=skRaKLY4

Nothing phone (1) เป็นโทรศัพท์มือถือที่เรียกได้ว่าอินดี้สุดๆ ด้วยการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร และดูไปดูมาก็รู้สึกว่ามันเท่อยู่เหมือนกัน เพราะหากเราดูจากการออกแบบ เราจะเห็นได้ว่าตัวฝาหลังเครื่อง มันเป็นสีใส ที่ทำให้ได้เห็นด้านในของตัวเครื่อง แถมมีแผง LCD ที่กระพริบได้ โดยสามารถเลือกตั้งได้ว่า จะให้กระพริบเพื่อแจ้งเตือนอะไรหรือไม่ แค่นี้เราก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจแล้ว ว่ามันจะมีการใช้งานอย่างไร

แต่หากพูดว่าตัวเครื่องมันมีเพียงการออกแบบที่เก๋ไม่เหมือนใคร แล้วมันจะไปน่าซื้อตรงไหน? ผมก็เลยไปนั่งอ่านข้อมูลของตัวเครื่อง ที่จะสามารถให้เราได้ใช้งานกันได้ดู ก็รู้สึกว่าในหลายๆ ส่วนก็ทำให้ผมรู้สึกว้าวเช่นเดียวกัน

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220804-1_0002_6Image_1280x1020_771c8fbc-9b8e-4466-ad69-3fa6da791aef_1901x.jpg?itok=7WWbvux5

เรามาเริ่มต้นกันที่ตัวเครื่องกันก่อน โดยในส่วนของหน้าจอ Nothing phone (1) ให้มาพร้อมกับหน้าจอกระจก ขนาด 6.55 นิ้ว ซึ่งทำด้วยวัสดุอย่าง Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเครื่อง รับรองได้ว่าแข็งแรง ขีดข่วนแบบที่ใช้อยู่ปกติก็ไม่เป็นรอย ซึ่งมีรีวิวจากต่างประเทศ เขาได้ทดลองดูว่ากระจกของตัวเครื่องจะเป็นรอยตอนไหน จากการทดสอบขูดจอด้วยของแข็งก็พบว่ามันเริ่มเป็นรอยตั้งแต่ของแข็งระดับ 6 ขึ้นไป (สามารถไปรับชมได้ที่ช่องของ JerryRigEverything นะครับ )

นอกจากนั้นเรื่องของคุณสมบัติต่างๆ ก็ได้รับมาตราฐาน เช่นคุณสมบัติกันน้ำและระบบป้องกัน มาตรฐาน IP53 เป็นต้น

หน้าจอแสดงผล อย่างที่บอกไปว่ามันมีหน้าจอที่แข็งแรง ทนทาน มาพร้อมกับจอแสดงผล OLED 10-bit อัดแน่นกว่า 1.07 พันล้านสี การแสดงผลทีเรียกได้ว่าคมชัด ตามฉบับของ HDR 10+ ความละเอียดที่ 1080 x 2400 พิกเซล ร้องรับการแสดง Frame Rate 120 Hz.

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220804-1_0001_3-3_43d353bd-d905-4dd9-9f3b-2cced8607068_1901x.jpg?itok=KnF0rLif

มาในส่วนของระบบปฏิบัติการ ด้วยความที่เจ้าของบริษัทเคยเป็นผู้ก่อนตั้งของ OnePlus นั่นทำให้ Nothing Phone ก็ได้ใช้ระบบปฏิบัติการที่เป็นของตัวเองอย่าง Nothing OS (1) ซึ่งใช้พื้นฐานมากจาก Android 12 ใช้งานบนชิปประมวลผล Qualcomm : Snapdragon 778G+ 5G Octa Core และ GPU Adreno 642L และ RAM 8 GB ROM 256 GB ครับ ให้กันมาจุกๆ เล่นกันได้ลื่นๆ

เรื่องของแบตเตอรี่ก็สำคัญ เพราะโทรศัพท์ในยุคนี้ หากเครื่องดีแค่ไหน แต่แบตเตอรี่ไม่มาก ก็อาจจะไม่คุ้มสำหรับเงินที่ต้องเสียไป โดย Nothing Phone มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 4,500 mAh (Standard Battery) ที่รองรับ Fast Charging ถึง 33W ด้วยกัน แถมมีฟีเจอร์แบ่งแบตเตอรี่แบบไร้สายมาอีกด้วย

มาถึงเรื่องของกล้องกันดีกว่า กล้องหลังของ Nothing Phone มีมาให้ 2 ตัวด้วยกัน โดยมีความละเอียด 50 MP เป็นเลนส์ปกติ และยังมีเลนส์แบบ Ultrawide ความละเอียด 50 MP ได้ภาพขนาด 8,000 x 6,000 พิกเซล และรูรับแสงขนาด ƒ/1.9 ส่วนกล้องหน้า มีความละเอียดที่ 16 MP แถมมาพร้อมอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เพื่อให้การถ่ายภาพไม่น่าเบื่อ ทั้งโหมดหน้าสวย ปรับหน้าสวยอัตโนมัติ ระบบโฟกัสภาพ Phase Detection Auto Focus และระบบกันสั่นแบบออปติคอล (OIS)

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220804-1_0000_14Image_1280x1020_02cbe367-76ae-42f4-96dd-697fa23bc817_1901x.jpg?itok=7mgIYCTD

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา วางขายไปแล้วในราคา 18,900 บาทครับ ผมมองว่าแม้ว่ามันอาจจะมีราคาที่สูงนิดหน่อย แต่สำหรับความแตกต่างที่ลงตัว ความแตกต่างที่สามารถใช้งานได้อย่างดี เป็นอะไรที่พอจะพูดกันได้นะครับ สำหรับใครที่กำลังถามว่า ซื้อดีไหม ผมก็อยากจะบอกตรงนี้ครับว่า แม้ว่า Nothing Phone จะมีชื่อว่า "ไม่มีอะไร" แต่สเปคที่ให้มา ก็ถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคา แถมทนมากๆ เรียกได้ว่าเป็นโทรศัพท์มือถือที่น่าจัดตามมองมากๆ หากใครสนใจก็สามารถตามอ่านข้อมูลได้ที่ https://th.nothing.tech/

แล้วเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับการพาไปรู้จักกับ Nothing Phone คิดอย่างไรก็สามารถมาแบ่งปันความคิดเห็นกันได้นะครับ