https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1600w/public/2022-04/20220427-1.jpg?itok=gJM-o0q5

แต้มเองรวมถึงเพื่อนๆ หลายคนๆ อาจจะประสบปัญหาคล้ายๆ กับผม คือปัญหาในการเขียนภาษาอังกฤษยังไงให้ถูก Gramma หรือถูกหลักไวยากรณ์ ซึ่งผมก็เชื่อว่าหากมันฝึกฝนมากๆ ก็จะเก่งขึ้นได้ แต่หากมันจำเป็นต้องใช้งานด่วน หรือต้องการคนมาคอยช่วยตรวจคร่าวๆ มันก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายมาก และด้วยเทคโนโลยีในยุคนี้ ทำให้เราสามารถมีตัวช่วยในการตรวจสอบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษได้ ง่ายๆ เพียงแค่ปลายนี้ ซึ่งมันก็มีอยู่เยอะมากๆ ให้เราเลือกใช้ แต่ในบทความของ TamKung วันนี้เราจะมาลองเปรียบเทียบ แอปตรวจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ 2 เจ้า อย่าง  ProWritingAid กับ Grammarly ดูกันว่าใครจะดี ใครจะโดดเด่นมากกว่ากัน


Grammarly คืออะไร?

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/IMG_8780_2.JPG?itok=2E995uI-

Grammarly เป็นเหมือนรุ่นพี่ในวงการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในการใช้งานเพื่อตรวจสอบความผิดพลาดหรือตกหล่นของการเขียนทางด้านที่เน้นเรื่องของไวยากรณ์ โดยรวมทั้งการสะกดคำ เครื่องหมายวรรคตอน ซึ่งก็สามารถแนะนำเรา รวมถึงช่วยแก้ไขให้เราได้อย่างดี ซึ่งจะนิยมใช้ในงานตรวจสอบ พิสูจน์อักษร แก้ไขบทความ อีเมลและอื่นๆ ที่ใช้ไวยากรณ์เป็นหลักๆ นั้นเองครับ

ซึ่งนอกจาก Grammarly จะช่วยในการแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในงานเขียนภาษาอังกฤษแล้ว ตัว Grammarly ยังสามารถแก้ปัญหาเรื่องโครงสร้างประโยค คำที่ใช้ผิดรูป ผิดเสียง และยังพร้อมแนะนำคำศัพท์หรือประโยคให้เข้ากับเนื้อหาของบทความที่เรากำลังเขียนได้อีกด้วย ซึ่งผมว่ามันทำได้ดีมากใช้เวอร์ชั่นที่ฟรี

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220427-1_0012_IMG_8768.jpg?itok=OmboxtML

แต่หากเราได้ทำการสมัครสมาชิกรายเดือน ก็จะปลดล็อกฟีเจอร์ของฝั่ง Premium โดยจะมีการเพิ่มฟีเจอร์อย่างตรวจจับการลอกเลียนแบบในเนื้อหา การแนะนำตัวเลือกของคำที่จะใช้ โดยจะมีการลงน้ำหนักมากยิ่งขึ้น ว่าหากเป็นประโยคที่มีน้ำหนักไปด้านไหน คำศัพท์ก็จะเน้นไปที่ทางนั้น ซึ่งมันเป็นระบบที่ฉลาดมากๆ

Grammarly จะมีฟีเจอร์เด่นๆ เช่น

  • Spelling and Word Suggestion หรือ การสะกดคำและการแนะนำคำ

อย่างที่ผมได้แนะนำไป คือหากเราเขียนคำศัพท์หรือประโยคที่ไม่ถูกต้อง Grammarly ก็จะมีการตรวจจับแบบตลอดเวลา และพร้อมเด้งแจ้งเตือนตำแหน่งที่คิดว่าผิดให้ทันที ทำให้เราได้เห็นเลยว่า เขียนผิดที่คำไหน ประโยคไหนนั่นเอง

  • Different English Style หรือ รูปแบบภาษาอังกฤษที่แตกต่างกัน

    https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220427-1_0011_IMG_8769.jpg?itok=jceOEiIU

เพราะว่าภาษาอังกฤษนั้นมีการใช้อยู่หลากหลายประเทศ และแต่ละประเทศก็จะมีการใช้สำเนียง คำศัพท์ที่อาจจะต่างกันไป ทำให้การเขียนเอกสารนั้นมีความซับซ้อน และความน่าปวดหัวมากยิ่งขึ้น Grammarly ก็จะเป็นตัวช่วยในการตรวจสอบการสะกดสำหรับภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน อังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลีย

  • Plagiarism หรือ การลอกเลียนแบบงานเขียน

ด้วยความสามารถนี้ใน Grammar จะทำให้เราได้รู้ว่า เราได้คัดลอกบทความหรือประโยคจากที่ไหนมาหรือไม่ วิธีนี้จะช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการไปนั่งพิสูจน์กันเอง ด้วยความสามารถในการค้นหาข้อความกว่า 8,000 ล้านหน้าเว็บไซต์ ก็ทำให้เรามั่นใจว่าไม่ได้ลอกเลียนแบบใครมานั่นเอง

  • Wordiness หรือ การใช้คำ

    https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220427-1_0008_IMG_8778.jpg?itok=Zth5f9po

เครื่องนี้จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตรวจสอบถึงการเขียนของเรา ว่ามีการใช้คำยาว อ่านยากเกินไปหรือไม่ แล้วอาจจะต้องแก้เป็นอะไร เพื่อให้บทความของเรานั้นเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

  • Passive Voice หรือ ตัวตรวจสอบการใช้ Passive Voice

การใช้ Passive Voice มากจนเกินไปในงานเขียนของเรา ในบางครั้งก็อาจจะมีการใช้ผิดที่ ผิดรูปไปบ้าง หรือแม้แต่กระทั้งการใช้มากจนเกินไป อาจจะทำให้บทความของเราเกิดความงงได้ และผู้อ่านอาจจะรู้สึกว่าแบบนี้ไม่น่าจะดี ด้วยเครื่องมือนี้จะช่วยในการจัดการปัญหาเหล่านั้นไปนั่นเอง

จริงๆ ก็ยังมีอีกมากมายความสามารถที่ตามมาใน Grammarly แต่นี้ก็เป็นเพียงความสามารถหลักๆ ที่น่าจะเป็นที่ต้องการใช้งานในหลายคนเลยครับ

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220427-1_0009_IMG_8774.jpg?itok=i1RRDe6p

ราคาการใช้งาน Premium

มีทั้งหมด 2 ราคาให้เราเลือก ตั้งแต่แบบ

  • Premium หรือเพื่อการใช้งานเพียง 1 คน ในราคา 411 บาท/เดือน
  • Business หรือเพื่องานธุรกิจ รองรับการใช้งานมากกว่า 149 บัญชี ในราคา 430 บาท/บัญชี/เดือน (แตกต่างจากรุ่น Premium ธรรมดาตรงที่ จะมีเครื่องมือ SSO, Email, Dashboard ที่เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นแบบองค์กร)

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ grammarly


ProWritingAid คืออะไร?

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/IMG_8782.JPG?itok=scX2eZL1

ProWritingAid อาจจะดูคล้ายกับ Grammarly ครับ แต่ก็ไม่เสมอไป โดย ProWritingAid เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบรูปแบบของงานเขียน รวมไปถึงอารมณ์ที่บทความของเรานั้นจะสื่อออกมา โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเลือกคำ จัดการกับคำผิด เครื่องหมายวรรคตอน หรือข้อผิดพลาดทั่วไปในด้านของไวยากรณ์ โดย ProWritingAid สามารถใช้เป็นส่วนเสริมของ WordPress, Gmail และ Google Docs

ProWritingAid  จะมีฟีเจอร์เด่นๆ เช่น

  • Grammar checker and spell checker หรือ ตัวตรวจสอบไวยากรณ์และตัวตรวจการสะกด

    https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220427-1_0005_IMG_8754.jpg?itok=F9wEf1zn

โดยเครื่องมือนี้จะช่วยในการตรวจสอบไวยากรณ์และตัวตรวจการสะกดทั้งหมดของบทความของเรา ซึ่งสามารถทำได้ง่ายมากๆ เพียงกดครั้งเดียว ก็สามารถรู้ไดเลยว่า บทความของเรามีข้อผิดพลาดตรงไหน

  • Find repeated words หรือ ค้นหาคำซ้ำ

เพราะการใช้คำซ้ำมากเกินไปก็อาจจะทำให้บทความของเราเกิดความไม่น่าสนใจได้ เพราะฉะนั้นเมื่อเราเขียนบทความเสร็จ เราก็อาจจะต้องมานั่งตรวจสอบว่า ในบทความของเรา ใช้คำว่าอะไรมากจนเกิดไป หรือติดกันหรือไม่ และก็ทำการเปลี่ยน เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของบทความเรานั่นเอง

  • Sentence Length หรือ ความยาวประโยค

ProWritingAid จะมีเครื่องมือในการตรวจสอบความยาวของประโยค ว่ายาวหรือสั้นเกินไปไหม และเราจะได้หาทางแก้ ตัด เพิ่มประโยตของบทความไม่ให้ยืดเยื้อได้

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220427-1_0006_IMG_8760.jpg?itok=lkWqjd5S

  • Echoes หรือ ตรวจสอบในวลีที่ซ้ำกัน

ProWritingAid จะสามารถตรวจสอบการเขียนของเรา เพื่อหาคำและวลีที่ซ้ำกันอย่างสม่ำเสมอ และแนะนำคำให้กับเรา เพื่อเพิ่มความไม่จำเจในงานเขียนของเรา

ราคาการใช้งาน Premium

มีทั้งหมด 3 ราคาให้เราเลือก ตั้งแต่แบบ

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220427-1_0007_IMG_8762.jpg?itok=Ks21jfMZ

  • Monthly Subscription หรือการสมัครสมาชิกรายเดือน ในราคา 685 บาท/เดือน
  • Yearly Subscription หรือการสมัครสมาชิกรายปี ในราคา 2,031 บาท/เดือน (ตกเดือนละประมาณ 169.39 บาท)
  • Lifetime หรือการซื้อแบบครั้งเดียวจบ ไม่ต้องเสียค่าบริการ ในราคา 10,200 บาท/Licence

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ prowritingaid


ความแตกต่างระหว่าง Grammarly และ Pro-Writing Aid

คือผมจะบอกว่าทั้ง 2 โปรแกรมหรือส่วนเสริมนี้ เป็นเครื่องมือที่ดี และเหมาะสำหรับการประกอบกับงานเขียนของเรา แต่เรามาลองดูดี ข้อเสียกันดีกว่าครับ

ข้อดีของ Grammarly

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220427-1_0010_IMG_8771.jpg?itok=Sl41aNbr

  • สามารถให้เราได้แก้ไขข้อผิดพลาดในงานเขียนทั่วๆ ไปของเราได้ โดยสามารถใช้งานได้ดี ตั้งแต่เวอร์ชั่นฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย
  • เราสามารถแก้ไขงานได้โดยไม่ต้องไปเสียรูปแบบของเอกสาร
  • สามารถตรวจสอบการใช้ Active และ Passive voice
  • ตรวจสอบเรื่องการเขียน การใช้งานเครื่องหมายต่างๆ ทั้งเครื่องหมายวรรคตอน ไวยากรณ์ และการสะกดคำ
  • ช่วยแนะนำคำศัพท์ใหม่ หรือคำศัพท์ที่มีความหมายเหมาะสมกับบทความ ตามรูปแบบของชิ้นงาน
  • รองรับทั้งบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ บน Browser และบน Smart Phone

ข้อเสียของ Grammarly

  • รองรับเฉพาะกับภาษาอังกฤษ
  • มี Support เฉพาะอีเมลเท่านั้น
  • มีการจำกัดคำให้สามารถเขียนได้ ไม่เกิน 150,000 คำ
  • แผนการสมัครสมาชิกที่มีราคาสูงมาก
  • ไม่มีการทดลองใช้งานฟรี
  • ไม่มีนโยบายการคืนเงิน
  • ในรุ่นฟรีนั้นจะเหมาะสมกับการตรวจสอบการสะกดคำพื้นฐาน และเรื่องของไวยากรณ์ แต่จะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ขั้น Premium

ข้อดีของ ProwritingAid

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/IMG_8745_2.JPG?itok=mOEDKAWh

  • มีรายงานและบทความมากกว่า 20 ฉบับ เพื่อช่วยให้เราสามารถปรับปรุงงานเขียนของเราได้
  • มีราคาที่ถูกกว่าแอปตรวจไวยากรณ์ตัวอื่นๆ (หากสมัครเป็นแบบจ่ายรายปี)
  • มีเครื่องมือช่วยในการประเมินอารมณ์ของบทความ เพื่อการแนะนำการเขียนได้ตรงตามอารมณ์ที่ต้องการ
  • มีแผนสำหรับการซื้อครั้งเดียวจบ ด้วยแผน Lifetime ไม่ต้องจ่ายเพิ่มรายเดือน
  • สามารถใช้งานได้ทั้ง Windows และ MacOS
  • มีเครื่องมือให้เลือกใช้ที่หลากหลาย

ข้อเสียของ ProwritingAid

  • หากเราได้มีบทความหรือประโยคที่เยอะมากๆ ก็อาจจะเกิดอาการหน่วงได้
  • ปัจจุบัน ProWritingAid ไม่มีแอปมือถือสำหรับอุปกรณ์ Android หรือ iOS
  • ในบางครั้ง คำแนะนำก็อาจจะไม่ได้ถูกต้อง

สรุป

เท่าที่ผมได้ลองใช้งานมาทั้ง 2 แอปแล้ว ผมเองก็ตัดสินใจไม่ได้ว่า อันไหนจะดีกว่าอันไหน แต่เอาเป็นว่า ผมจะให้ไว้เป็นแนวทางสำหรับผู้ที่ต้องการตัดสินใจเพื่อสมัครสมาชิกรายเดือนนะครับ (เป็นความคิดส่วนตัว เอาไว้ไปประกอบตัดสินใจเท่านั้นนะครับ)

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/IMG_8783_2.JPG?itok=WFHYJ-Bq

  • หากใครเป็นคนที่ต้องการเขียนจำพวก non-fiction หรือการเขียนที่ต้องการความเที่ยงตรงของคำศัพท์มากๆ อยากให้เลือกใช้ Grammarly และหากใครที่เขียนพวก fiction หรือเขียนแนวนิยาย แนวให้ความรู้ ความคิดเห็น ก็แนะนำว่าเป็น ProwritingAid
  • เพราะว่าในส่วนของ ProWritingAid จะสามารถตรวจความผิดพลาดของเนื้อหาที่มีความยาวได้มากกว่า แต่ Grammarly จะเหมาะกับงานที่มีความสั้นๆ ไม่ยาวมาก เช่น Blog หรืองานที่คล้ายๆ กัน
  • ProWritingAid ยังสามารถช่วยตรวจสอบงานให้มีความอ่านสบาย ไม่เน้นคำศัพท์ที่จริงจัง มีการตรวจสอบรูปแบบของงานเขียนเพื่อแนะนำคำศัพท์ ดูโครงสร้างและเนื้อหา แต่ Grammarly จะเน้นไปที่เรื่องของไวยากรณ์และเครื่องหมายวรรคตอนที่เข้มงวด แบบต้องตรงตามไวยากรณ์เท่านั้น

จริงๆ แล้ว ทั้ง ProWritingAid และ Grammarly เป็นเครื่องมือเขียนที่ยอดเยี่ยมมากๆ เลยครับ แต่จากการใช้งาน ผมนิยมใช้งานเครื่องมือฝั่ง Grammarly มากกว่า เพราะว่าเราเขียนบทความก็ไม่ได้ยาวมาก แต่ก็ต้องการความสมบูรณ์แบบของเรื่องไวยากรณ์ และเครื่องหมายต่างๆ รวมถึงคำศัพท์ที่อาจจะทำให้บทความของเรามีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น และจะได้ดึงดูดผู้อ่านให้ติดตามบทความจากเว็บไซต์เราก็เป็นได้ครับ

แล้วเพื่อนๆ คิดว่าเครื่องมือช่วยตรวจสอบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษตัวไหนที่เพื่อนๆ ใช้งานอยู่ แล้วมันดียังไง เอามาลองพูดคุยกันได้นะครับ