เมื่อหลายวันก่อนเราได้เขียนบทความเกี่ยวกับการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล NFL หรือว่างาน Super Bowl มาแล้ว และผมได้พูดในเรื่องของการแสดงและงานโฆษณาที่เกิดขึ้นภายในงาน ล่าสุดเราก็คงจะได้เห็นข่าวพาดหัวว่า "Super Bowl ราคาสถิติโลก ราคา 7.6 ล้านต่อวินาที" ใช่ครับฟังไม่ผิด 7.6 ล้านต่อวินาที และไม่ใช่เงินสกุลบาท แต่ยังเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย ในบทความของ TamKung วันนี้เราจะมาคุยกัน ว่าทำไมราคาโฆษณาในโทรทัศน์มันถึงได้มีราคาแพงและสูงขนาดนั้น

https://sls-prod.api-onscene.com/partner_files/trueidintrend/265121/pexels-marcus-herzberg-1058276_0.jpg

คำถามแรกที่เราจะคุยกันคือ "ทำไมราคาโฆษณา Super Bowl ถึงได้สูงขนาดนั้น" ซึ่งคำตอบที่ง่ายที่สุด คือมันเป็นรายการการแข่งขันที่มีผู้ชมเป็นจำนวนมากในทุกปี และผู้โฆษณาก็ต้องการใช้ประโยชน์จากการมีผู้ชมเยอะ ก็เพื่อการโปรโมทผลิตภัณฑ์ของเขานั้นเอง ซึ่งถ้าเราได้ลองอ่านข่าวในแต่ละปี ก็จะเห็นว่าผู้ชมรายการ Super Bowl มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นทุกปี และหากปีไหนที่มีศิลปินโด่งดังระดับโลก ยอดผู้เข้าชมก็จะยิ่งมากขึ้น และราคาให้เช่าโฆษณาก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก

มีตัวอย่างของผู้ซื้อโฆษณาเพื่อเปิดระหว่างการแข่งขันอย่าง GoDaddy เป็นบริษัทรับจดโดเมนเว็บไซต์ ที่ช่วงแรกๆ ก็ไม่ค่อยมีใครรู้จัก มูลค่าของบริษัทก็น้อย แต่พอมีโฆษณาของบริษัทนี้ไปอยู่ในงาน Super Bowl ก็ทำให้กลายเป็นรู้จักกันทั้งโลก แถมมูลค่าบริษัทก็มีการเติบโตไปมากกว่า  3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยละครับ

นี่มันก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ราคาโฆษณามีราคาที่สูง ยังไม่พอการทำโฆษณาโทรทัศน์ หรือจะเป็นการโฆษณาในรูปแบบไหนก็ตาม มันก็มีราคาที่ต้องจ่าย มากกว่าการปล่อยไปออกอากาศ นั้นคือเรื่องของต้นทุนในการผลิตครับ

ในเรื่องของต้นทุนการผลิตโฆษณาทางโทรทัศน์นั้นก็อาจจะแตกต่างกันบ้าง โดยทั่วไปราคามักจะอยู่ที่ประมาณ 2X,XXX - 1XX,XXX บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการออกอากาศก็ต้องขึ้นอยู่ในแต่ละสถานี ว่าเขาจะมีตารางราคาและเวลาที่เท่าไหร่ ปัจจุบันก็มีตั้งแต่ราคา 1X,XXX - 1XX,XXX บาท ซึ่งส่วนใหญ่คือระยะเวลาประมาณ 15 วินาทีต่อครั้ง และต้องดูช่วงเวลาที่ออกอากาศ ว่าอยู่ในช่วงไหนอีกด้วยละครับ ยิ่งเป็นช่วงหลังการออกอากาศละคร ราคาค่าออกอากาศโฆษณาก็จะยิ่งแพง แต่ถ้าช่วงที่ไม่ค่อยมีคนดูก็จะยิ่งถูกครับ

ต้นทุนการผลิตโฆษณาทางทีวีโดยเฉลี่ย

https://sls-prod.api-onscene.com/partner_files/trueidintrend/265121/pexels-kyle-loftus-2510428.jpg

ซึ่งเราเองอาจจะไม่รู้ว่าราคาในการทำงานด้านการผลิตโฆษณามันจะมีราคาเท่าไหร่ แล้วราคาส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับอะไร ซึ่งส่วนใหญ่ราคามักขึ้นอยู่กับขนาดของงานครับ ว่างานเป็นงานรูปแบบไหน สินค้าอะไร ต้องใช้อะไรในการผลิตงานบ้าง โดยมักจะต้องมีการประเมินราคาจากเอเจนซี่ก่อน และราคาจะขึ้นกับทีมงานที่จะทำงานครับ ว่ามีกี่คน และใช้อุปกรณ์อะไรในการถ่ายทำ ราคาที่มีการประเมินคร่าวๆ ก็มีตั้งแต่ 1X,XXX บาทเป็นต้นไปครับ

สิ่งที่เป็นตัวกำหนดราคาค่าโฆษณาทางโทรทัศน์

การกำหนดราคาของค่าโฆษณา จะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ชมที่มีต่อผู้โฆษณาครับ ยกตัวอย่างเช่น รายการโทรทัศน์ที่มีผู้ชมเพศหญิงเป็นหลัก ก็จะมีบริษัทสินค้าผู้หญิงต้องการมากกว่า และนอกจากนี้ ข้อมูลประชากรของผู้ชม เวลา และสถานที่ที่โฆษณาออกอากาศ ก็อาจจะหมายถึงราคาต้นทุนโฆษณาที่สูงขึ้นหรือต่ำลงนั้นเองครับ

https://sls-prod.api-onscene.com/partner_files/trueidintrend/265121/pexels-ketut-subiyanto-4545955.jpg

โดยมันก็มีปัจจัยหลักการกำหนดราคาที่เราได้เห็นอยู่บ่อยๆ ก็คือ

  • รายการที่กำลังออกอากาศ อย่างที่ผมได้ยกตัวอย่างไป คือหากเป็นรายการที่มีการรับชมมากๆ เช่นละครหลังข่าวที่ติดกระแส มีคนผู้ถึงเยอะๆ หรือการแข่งขันอย่าง Super Bowl ก็จะทำให้ราคาของค่าโฆษณาในช่วงนั้นรวมถึงหลังจากนั้นจะแพงขึ้นมากๆ เพราะมีการแข่งขันของผู้ลงโฆษณามากขึ้นนั้นเองครับ

  • ช่วงเวลาของปี โดยเฉพาะช่วงเวลาแห่งการแข่งขันกีฬาของโลก หรือมีเทศกาลที่สำคัญๆ จะมีผู้ชมโทรทัศน์มากๆ ก็จะยิ่งทำให้ราคาโฆษณานั้นสูงมากยิ่งขึ้นครับ

  • ช่วงเวลาของวัน เป็นเรื่องที่บริษัทสินค้าต้องเลือกให้ดี รวมถึงมีการศึกษาข้อมูลก่อนซื้อโฆษณาครับ เพราะว่าจะเป็นการดีถ้าเรารู้ว่าช่วงเวลาไหน คือช่วงที่คนดูโทรทัศน์มากที่สุด หากเราไม่ได้ดูเรื่องของกระแส แต่เป็นเรื่องของธรรมชาติมนุษย์เข้ามาเกี่ยว ก็อาจจะรู้ได้ว่าช่วงไหนเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าราคาที่จ่ายไปมากที่สุดละครับ

    https://sls-prod.api-onscene.com/partner_files/trueidintrend/265121/pexels-negative-space-34639 (1).jpg

  • ขนาดของผู้ชม หากต้องการให้มีผู้ชมโฆษณาสินค้าของเรามากๆ ก็จำเป็นต้องใช้ช่องทางที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงความถี่ที่เราจะเอามันโฆษณานะครับ อย่างเช่นเราอยากจะให้คนทั้งเมืองกรุงเทพได้รู้จักกับสินค้าของเรา ก็ต้องมีการซื้อโฆษณาใจกลางกรุงเทพ และจะต้องมีความถี่ที่มาก เพื่อให้คนเห็นโฆษณาของเรามากกว่าปกติ นั้นจึงทำให้ราคายิ่งสูงขึ้นครับ เพราะจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอีกหลายประการที่มีส่วนทำให้ราคาของค่าโฆษณานั้นมีทั้งสูงและต่ำครับ และจำเป็นต้องมีคนช่วยในการศึกษาว่าในปัจจุบันนั้นมีอะไรสามารถนำมาเป็นจุดขายของเราได้บ้าง และเพื่อการหาประโยชน์มาใช้ให้ได้สูงสุดนั้นเองละครับ

https://sls-prod.api-onscene.com/partner_files/trueidintrend/265121/pexels-mikael-blomkvist-6476587.jpg

และแม้ว่าการโฆษณาทางทีวีไม่ใช่วิธีที่ประหยัดที่สุดในการส่งเสริมธุรกิจของหลายบริษัท แต่ก็เป็นทางออกที่ยังมีความนิยมอยู่อย่างมาในยุคปัจจุบัน ในฐานะของวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการโปรโมทสินค้าและบริการของเรา ไปยังผู้ชมที่อยู่บ้านเป็นจำนวนมาก เป็นการเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่จะมาเป็นตัวตัดสินค่าค่าใช้จ่ายในการโปรโมททั้งหมดจะสูงหรือต่ำนั้นเองครับ