เตรียมความพร้อมเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งปีสำหรับเหล่านักพัฒนา Software, Hardware หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานของ Apple อย่างงาน WWDC ประจำปี 2022 ที่กำลังจะถึงในวันที่ 6-10 มิถุนายนนี้ โดย Apple จะยังคงรูปแบบงานเป็นออนไลน์ ซึ่งในบทความของ TamKung วันนี้เราจะมาพูดถึงงาน WWDC ว่ามันมีทำไม มีอย่างไร แล้วมีอะไรน่าสนใจในปีนี้บ้าง

WWDC คืออะไร?

งาน WWDC ย่อมากจาก Worldwide Developers Conference หรือแปลว่าการประชุมนักพัฒนาระดับโลก ซึ่งเป็นงานประชุมประจำปีของบริษัท Apple เพื่อแสดงสินค้า ซอฟต์แวร์ และผลิตภัณฑ์ใหม่ของทาง Apple โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อเป็นเหมือนการบอกกล่าวว่าในอนาคตเขาต้องการซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่นอะไรที่จะมาตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานนั้นเองครับ

หากเราได้พูดถึงเรื่องของงานประชุม WWDC นี้ก็เป็นอีกหนึ่งใน Event ที่นักพัฒนาโปรแกรมอยากจะได้สิทธิ์ ได้ตั๋วที่นั่งในห้องประชุมที่สำนักงานใหญ่ของ Apple อย่าง Apple Park เพราะว่ามันเป็นเหมือนความฝันที่สูงมากๆ และเป็นโอกาสที่ยากมากๆ ในการเข้าไปในงานนั้น เนื่องจากการที่จะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของงานประชุมนั้น จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากกว่า 1590 เหรียญสหรัฐกันเลยทีเดียว เพื่อจะได้เข้าไปรับชมงานนั้นแบบสดๆ ซึ่งภายหลังจากที่เกิดสถานการณ์โควิดนี้ ก็ทำให้การจัดงานเปลี่ยนเป็นการบันทึกเทปแทน ทำให้หลายๆ นักพัฒนาโปรแกรมไม่ได้เข้าไปร่วมในงาน ซึ่งก็ได้เปลี่ยนมาเป็นระบบออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2020 แล้วครับ

WWDC22

Worldwide Developers Conference (WWDC) ประจำปี 2022 นี้จะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 6 ถึง 10 มิถุนายน โดยมีหัวข้องานว่า "Call to Code" และเปิดให้นักพัฒนาทุกคนเข้าร่วมฟรี ที่จะเป็นการเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังจะมาในเร็วๆ นี้มาเปิดตัวให้เหล่านักพัฒนาโปรแกรมได้มาคิดสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อต่อยอดและสามารถขายได้ในผลิตภัณฑ์ใหม่ของทาง Apple ซึ่งทางเว็บข่าวก็ได้ออกมาบอกว่าจะมีการเปิดเผยเรื่องของ iOS, iPadOS, macOS, watchOS และ tvOS นั้นก็จะเท่ากับว่า เราจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังจะมาในเร็ววันนี้เองครับ

เพราะในปัจจุบันนี้อุปกรณ์ สินค้าจากทาง Apple ก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันมากกว่าที่เคยเป็น โดยมันยังเป็นมากกว่าแค่เครื่องมือหรืออุปกรณ์เทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือเพื่อการต่อยอด เรียนรู้ และสรรค์สร้างสิ่งต่างๆ มากมาย

งานในครั้งนี้จะมีการจัดกันยาวต่อเนื่องถึง 4 วัน สำหรับงาน Worldwide Developers Conference นั้นจะประกอบไปด้วยกัน Presentation อย่าง Keynote และการนำเสนอวิดีโอ State of the Union และการนำเสนอข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่จะมีการลงรายละเอียดต่างๆร่วมกันซึ่งผู้เข้าร่วมส่วนมากจะมีอาชีพเป็นนักพัฒนาโปรแกรมเป็นหลักคนใจร้ายงานประชุมนี้ในการชี้แจงและแจกแจงการพัฒนาโปรแกรมเพื่อใช้งานอุปกรณ์ของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPad OS iOS หรือ Mac OS ที่จะเป็นหัวใจแกนกลางของงานนี้ พองานจบแล้ว ที่เหลือจะเป็นการจัดเป็นห้องเรียนต่างๆ เพื่อให้เหล่านักพัฒนาได้เข้าไปเรียนรู้ วิธีการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อการพัฒนา Software ให้กับทาง Apple เองครับ นอกจากนี้ยังมีการแบ่งแยกห้องเรียนต่างๆ ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และจะมีเนื้อหาที่ถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานนั้นสามารถเข้าใจ และเอาไปพัฒนาต่อได้นั้นเอง ซึ่งหากใครอยากอ่านรายละเอียด ผมแนะนำให้เข้าไปอ่านหน้า Newsroom ครับ

แต่ว่าตามที่ผมได้อ่านในเนื้อหาของข่าว ในปีนี้ก็อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมครับ เพราะว่าทาง Apple ระบุมาว่าในปีนี้จะมีการเปิดโอกาสในนักพัฒนาโปรแกรมบางกลุ่ม หรือบางคนที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ามาเป็นส่วนรวมในงานครั้งนี้กันที่ Apple Park กันเลย แต่ก็อาจจะไม่ได้มีจำนวนคนที่มาก ก็จะมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงาน โดยที่จะมีรายละเอียดออกมาทีหลัง ซึ่งจะประกาศผ่านเว็บไซต์ Apple Develop ครับ

นอกจากการเป็นงานของเหล่านักพัฒนาโปรแกรมมืออาชีพแล้ว ทาง Apple ก็ยังเล็งเห็นถึงศักยภาพของเยาวชน นักเรียน นักศึกษาที่มีความฝัน และมีความสามารถในการเขียนโปรแกรม การสรรค์สร้างและพัฒนาโปรแกรมของ Apple ซึ่งภายในงานยังมีการจัดการแข่งขัน Swift Student Challenge ปีที่ 3 เพื่อให้เหล่านักเรียน นักศึกษาได้สร้างสรรค์ผลงานการเขียนโค้ด โดยใช้ Swift Playgrounds ซึ่งเป็นแอปสำหรับ iPad และ Mac มาสร้างชิ้นงานเพื่อแข่งขันกันระดับโลก โดยหากใครที่สนใจอยากศึกษาข้อมูล สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ เว็บไซต์ Swift Student Challenge ครับ

ซึ่งผมมองว่า งานประชุมอย่าง WWDC นี้จะเป็นตัวชี้วัดให้เราเห็นถึงเทคโนโลยีของเราในปัจจุบัน ว่าเรานั้นอยู่ตรงไหนแล้ว และมันจะสามารถต่อยอดไปเป็นอะไรได้อีกจากเหล่านักคิดและนักสรรค์สร้างโปรแกรม แอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อให้เราใช้งานกันต่อไปในอนาคต และหากใครที่เป็นคนชอบการเขียนโค้ด การพัฒนาโปรแกรม ไม่ว่าจะเป็นสายงานไหน อุปกรณ์อะไร การได้รับรู้ถึงเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้น ก็จะเป็นจุดประกายความคิกสร้างสรรค์และการเรียนที่ไม่รู้จบนั้นเองละครับ แล้วเดี๋ยวภายในงานมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจ หรือเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ๆ ทาง TamKung จะเอาข่าวมาเขียนให้ทุกท่านได้รับชม รับอ่านกันนะครับ ฝากกดติดตาม และแชร์บทความเพื่อเป็นแรงกำลังใจให้กับ TamKung ด้วยนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลประกอบบทความ Apple