เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนย่างเข้าวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่เราและเหล่านักพัฒนาโปรแกรมของทาง Apple ได้เปิดหูเปิดตากับการเปิดตัวทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่น่าสนใจ ในบทความของ TamKung วันนี้เราจะรวม 7 เรื่อง WWDC 2023 รวมความน่าสนใจ ไม่อยากให้พลาด


ชิป M2 Ultraรวม 7 เรื่อง WWDC 2023 รวมความน่าสนใจ ไม่อยากให้พลาด

ขอมาเริ่มกันที่เรื่องการเปิดตัวชิปประมวลผลอย่าง M2 Ultra ที่เรียกได้ว่าทั้งใหม่ ทั้งเร็ว โดยเป็นการนำเอาทั้งชิป M2 Max มาต่อกันจำนวนถึง 2 ตัว ที่จะทำให้การประมวลผลนั้นเร็ว และแรงมากๆ โดยที่สามารถเลือกเพิ่ม RAM ได้สูงสุดถึง 192 GB อีกทั้งยังมีความเร็วมากขึ้นถึง 6 เท่า โดยที่เด่นๆ จะสามารถใช้งานร่วมกับจอ Studio Display ได้มากถึง 6 จอกันเลยทีเดียว โดยจากการทดสอบให้ดู คือทำงานได้เสถียรมากขึ้น ถ่ายโอนข้อมูลได้ไวมากขึ้นอีกด้วยครับ


iOS 17รวม 7 เรื่อง WWDC 2023 รวมความน่าสนใจ ไม่อยากให้พลาด

และก็มาถึงอุปกรณ์ที่มีผู้ใช้งานค่อนข้างเยอะ กับ iOS 17 ที่อยู่บน iPhone นั่นเอง โดยในเวอร์ชั่น 17 นี้ก็ได้มีการอัปเดตฟีเจอร์และความสามารถได้ดีมากขึ้น โดยจุดเด่นที่น่าสนใจของ iOS 17 

  • มีการนำข้อบกพร่องจากเวอร์ชั่นก่อนหน้ามาประปรุงและพัฒนาให้การใช้งาน iPhone ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Message FaceTime และ Phone
  • มีฟีเจอร์ Contract poster ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งหน้าจอผู้ติดต่อได้ เหมือนกับการแต่งหน้าจอล็อคนั่นเอง
  • เพิ่มฟีเจอร์ Live Voice Mail คือหากเราไม่มีเวลาอ่านข้อความของ Voice mail ก็สามารถใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อให้เปลี่ยนจากข้อความเสียงเป็นตัวหนังสือได้ โดยที่เราไม่ต้องกดฟัง 
  • เพิ่มฟีเจอร์อย่าง NameDrop คือจะสามารถส่งข้อมูลได้ง่ายมากขึ้นผ่านระบบ AirDrop
  • มีการปรับการเรียก Hey Siri ให้เหลือเป็น "Siri" เท่านั้น

iPadOS 17รวม 7 เรื่อง WWDC 2023 รวมความน่าสนใจ ไม่อยากให้พลาด

โดยจุดเด่นของ iPadOS 17 

  • สามารถปรับแต่งหน้าจอล็อคได้เหมือนกับ iPhoneโดยจะมีภาพพื้นหลังให้เลือกเยอะขึ้น เพิ่มความสนุกให้กับการใช้งานได้
  • มี Widget ในหน้าจอล็อคที่เพิ่มได้หลายแอปมากขึ้น มากกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้
  • เพิ่มฟีเจอร์การรองรับ Live Activity ที่จะสามารถทำให้มีการแสดงการจับเวลาได้หลายรอบเพิ่มขึ้น
  • ทำให้แอปสุขภาพ ซิงค์ข้อมูลกับ iPhone เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น
  • เพิ่มระบบ Auto Fill จากการสแกนไฟล์ PDF ที่จะทำให้การใช้งาน iPad นั้นสะดวกขึ้นแถมแชร์การทำงานร่วมกันได้

macOS Sonomaรวม 7 เรื่อง WWDC 2023 รวมความน่าสนใจ ไม่อยากให้พลาด

โดยจุดเด่นของ macOS Sonoma

  • ฟีเจอร์ที่มีอยู่บน iOS 17 และ iPadOS 17 ก็จะไปอยู่บน macOS Sonoma อย่างแน่นอน
  • มีฟีเจอร์ภาพพื้นหลัง Slow Motion ที่มาจากทาง Official โดยจะเป็นสถานที่สำคัญต่างๆ ของโลก
  • ฟีเจอร์การจัดเรียง Widgets บนหน้าจอโฮม ซึ่งสามารถให้เราเอา Widgets ต่างๆ มาแสดงที่หน้าจอโฮม
  • เพิ่มโหมดการเล่นเกม อย่าง Game Mode ทำให้การเล่นเกมบน Mac ทำได้ลื่นไหลมากขึ้น
  • มีการปรับปรุง Safari ให้ดีขึ้น สามารถล็อคหน้าต่างได้หากไม่ได้ใช้งาน สร้างทางลัดด้วยฟีเจอร์ Web Apps ให้สามารถแจ้งเตือนเว็บไซต์ได้

Apple Vision Proรวม 7 เรื่อง WWDC 2023 รวมความน่าสนใจ ไม่อยากให้พลาด

เรียกได้ว่ามาตามคำทำนายจริงๆ กับ Apple Vision Pro ที่เป็นการเปิดหูเปิดตาสำหรับสาวก Apple ที่ได้เปิดตัวสินค้าประเภท AR มาให้เราได้ตื่นตา ตื่นใจจริงๆ เพราะนี่ถือว่าเป็นเครื่องมือชิ้นแรกที่ทาง Apple ได้เปิดตัวมาเกี่ยวกับ AR/VR เลยก็ว่าได้ครับ โดยความสามารถเด่นๆ ที่เราจะได้เห็นผ่าน Apple Vision Pro คือแว่นตา AR และ VR  ที่มีชิปประมวลผลอย่าง M2 และ R1 มีทั้งกล้อง 6 ตัว มีแบตเตอรี่ และการตอบโจทย์สำหรับการใช้งาน AR หรือ VR ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพครับ ยังไงก็ต้องรอวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในอนาคตนี้ครับ


Mac Proรวม 7 เรื่อง WWDC 2023 รวมความน่าสนใจ ไม่อยากให้พลาด

ผลิตภัณฑ์ตัวตัวแรกที่เราจะได้จับต้องได้ นั่นคือ Mac Pro รุ่นใหม่นั่นเอง โดยความโดดเด่นของ Mac Pro รุ่นนี้คือ การใช้งานชิป M2 Ultra ที่มีความเร็วกว่า 3 เท่า มาพร้อมกับ CPU 24-core และ GPU 76-core เลือก RAM ได้สูงสุดถึง 192GB โดยหากเอาไปตัดต่อวิดีโอ เขาก็เคลมว่าเร็วมากๆ เพราะมาพร้อมกับฮาร์ดแวร์ประมวลผลภาพที่เทียบเท่า After Burner ถึง 7 ตัว อีกทั้งยังสามารถเปิดวิดีโอ 8K ได้ถึง 22 วิดีโอพร้อมกัน โดยราคาที่เปิดตัวจะอยู่ที่ 6,999 เหรียญสหรัฐ


MacBook Air 15 นิ้วรวม 7 เรื่อง WWDC 2023 รวมความน่าสนใจ ไม่อยากให้พลาด

หากใครที่ไม่ต้องการเครื่องหรือรุ่นที่ใหญ่มากๆ ก็มี Option มาให้ผู้ใช้งานได้เลือกซื้อ นั่นคือ Macbook Air 15 นิ้ว ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล M2 ครับ โดยฟีเจอร์หลักๆ ที่เราจะได้รับคือ ขอบจอเล็กลง 15 มม. และตัวเครื่องที่บางเพียง 11.5 มม. เท่านั้น แต่ดีไซน์ตัวเครื่องยังคงเป็นเหมือนเดิมนะครับ และยังมาพร้อมกับพอร์ต MagSafe และ USB-C 2 พอร์ต โดยราคาที่เปิดตัวจะอยู่ที่ 1,199 เหรียญสหรัฐ