คุณผู้อ่านรู้หรือไม่ ว่าร้านกาแฟอย่างสตาร์บัคส์ มีจำนวนสาขามากกว่า 400 สาขาในประเทศไทยเลย คงไม่แปลกที่หลายคนจะเป็นเหล่าสาวกเมนูเครื่องดื่มจากร้านสตาร์บัคส์แบบนี้ ในบทความของ TamKung วันนี้จะมาแบ่งปันและแนะนำ 3 เมนูลับที่ผมรู้สึกชอบมากกว่า และอยากจะมาชวนทุกท่านลองมาสั่งกินกันดู สำหรับสายหวาน สีพาสเทลแบบนี้ครับ

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/2561-12-02 14_54_49.554.jpg?itok=VRfM1yt2

{tocify} $title={Table of Contents}


ใครที่เคยเป็นเหมือนผมบ้างไหมครับ เวลาจะเดินเข้าไปซื้ออะไรสักอย่าง ก็อาจจะรู้สึกว่าต้องสั่งเมนูอะไร และต้องสั่งอะไร อย่างไรก็อาจจะมีเขินๆ กันบ้างสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้เข้ามาสั่งในร้านสตาร์บัคส์ครับ แต่อากาศร้อนๆ แบบนี้อยากจะแนะนำให้ได้ลองกับเมนู Frappuccino ซึ่งเป็นเมนูน้ำปั่นสไตล์สตาร์บัคส์ ที่ผมนั้นมีความชื่นชอบ ที่เอาจริงๆ เขาเรียกว่าเป็นเมนูลับที่ไม่มีเขียนอยู่ในเมนูของร้าน แต่ต้องสั่งเป็นข้อๆ เองนะครับ แถมเมนูเหล่านี้ไม่ค่อยมีคาเฟอีน ใครๆ ก็กินได้แบบไม่ต้องกังวล เด็กกินได้ผู้ใหญ่ดีนะครับ


Cotton Candy Frappuccino

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220225_0001_SB-2.jpg?itok=VD3KETTS

สำหรับสายหวานสีชมพู ต้องลองสั่งเมนูอย่าง Cotton Candy Frappuccino ซึ่งเป็นเมนูที่ผมเองได้ลองเป็นเมนูแรกของเมนูลับที่ผมลองไปสั่ง และมันทำให้ผมนั้นเปิดโลกมากๆ เพราะผมเองก็ไม่เคยรู้ว่ามันมีเมนูอื่นนอกจากเมนูกาแฟ เพียงแค่สั่งเมนูและเพิ่มน้ำเชื่อมรสชาติต่างๆ อย่างเมนูนี้ เราจะได้ลิ้มรสกับรสชาติน้ำเชื่อมราสเบอร์รี่แสนหวาน อีกทั้งเป็นเมนูไร้คาเฟอีน ซึ่งก็ได้รับความหวานๆ ไปแบบเต็มๆ รับรองว่าต้องถูกใจแน่นอนครับ โดยรสชาติของเมนูนี้จะออกประมาณเหมือนเรากับสายไหมหวานๆ ครับ ใครชอบกินสายไหมก็ต้องลองไปสั่งดูนะครับ

วิธีการสั่ง

  • Vanilla Bean Frappuccino
  • เพิ่มน้ำเชื่อมราสเบอร์รี่ (ซึ่งหากต้องการขนาดไซส์ Tall เพิ่ม 1 ปั๊ม สำหรับไซส์ Grande 1.5 ปั๊ม และสำหรับไซส์ Venti 2 ปั๊มครับ)

ซึ่งเอาจริงๆ เมนูนี้ทำค่อนข้างง่ายครับ เพียงแค่สั่งเมนูพื้นฐานอย่าง Vanilla Bean Frappuccino ความกลิ่นวานิลลาหอมอบอวลและเพิ่มด้วยน้ำเชื่อมกลิ่นราสเบอร์รี่ที่หวานๆ ทำให้รสชาติคล้ายกับสายไหมเลยครับ และต้องย้ำว่าเมนูนี้ไม่มีคาเฟอีน เด็กๆก็กินได้นะครับ

ราคาก็ขึ้นอยู่กับขนาดไซส์ของแก้ว โดยเริ่มที่ราคา Tall 105 บาท Grande 120 บาท Venti 135 บาท แล้วเพิ่มน้ำเชื่อมราสเบอร์รี่ (Raspberry) อีก 15 บาท


Ferrero Rocher Frappuccino

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220225_0002_SB-3.jpg?itok=gxjNfCPX

เมนูอย่าง Ferrero Rocher Frappuccino จะเหมาะสำหรับใครที่ชื่นชอบในรสชาติของ Ferrero Rocher สุดพรีเมียม และหากใครอยากลองกลิ่นอายของช็อคโกแลต ที่ใครหลายคนที่ชอบต้องตกหลุมรักเมนูนี้ครับ ซึ่งเขาจะนิยมสั่งกันในช่วงของเทศกาลช่วงฤดูหนาวกัน เพราะมันจะมีความผ่อนคลายที่เต็มไปด้วยความหวาน และถึงแม้ว่าชื่อเมนูจะมี Ferrero Rocher อยู่ แต่ในเมนูจริงๆ จะไม่ได้ใส่ลูกช็อคโกแลตนะครับ เพียงแค่กลิ่นมันจะชัดมากๆ เหมือนกิน Ferrero Rocher เลยครับผม ด้วยน้ำเชื่อมเฮเซลนัตซึ่งหากรวมกับ Double Chocolate Chip ก็จะเหมือนกับ Ferrero Rocher มากๆ ผมรับรองว่าต้องชอบแน่ๆ เพราะแฟนผมชอบมากๆ และฟังทุกครั้งที่ได้มีโอกาสไปกินสตาร์บัคส์เลยละครับ

วิธีการสั่ง

  • Double Chocolate Chip Frappuccino
  • เพิ่ม Mocha Syrup (ซึ่งหากต้องการขนาดไซส์ Tall เพิ่ม 2 ปั๊ม สำหรับไซส์ Grande 3 ปั๊ม และสำหรับไซส์ Venti 3.5 ปั๊มครับ)
  • เพิ่ม Hazelnut Syrup (ซึ่งหากต้องการขนาดไซส์ Tall เพิ่ม 1 ปั๊ม สำหรับไซส์ Grande 1.5 ปั๊ม และสำหรับไซส์ Venti 2 ปั๊มครับ)
  • เพิ่ม Topping ด้วย Hazelnut Drizzle (ผงเฮเซลนัต) และ วิปครีมครับ

ราคาก็ขึ้นอยู่กับขนาดไซส์ของแก้ว โดยเริ่มที่ราคา Tall 165 บาท Grande 180 บาท Venti 195 บาท แล้วเพิ่มน้ำเชื่อมเฮเซลนัท (Hazelnut) อีก 15 บาท วิปครีม (Whipped Cream) 15 บาท


Raspberry Cheesecake Mocha Frappuccino

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220225_0000_SB-1.jpg?itok=7NKgrAb9

ผมขอยกให้เมนู Raspberry Cheesecake Mocha Frappuccino เป็นเมนูที่ผมชอบมากที่สุด และนับว่ากินบ่อยที่สุดแล้วละครับ เพราะความหอมหวานของ White Chocolate และกลิ่นชีสเค้กราสเบอร์รี่ที่อยู่ในเมนูนี้ทำให้ผมรู้สึกสดชื่น มันทั้งหวาน ทั้งเย็นสดชื่นพร้อมทำงานได้โดยที่ใครชอบชีสเค้กราสเบอร์รี่ ต้องเป็นเมนูที่ห้ามพลาด ซึ่งส่วนผสมจะคล้ายกับเมนูแรก แต่ที่ต่างกันก็คือ ส่วนผสมหลักจากอันแรกที่เป็น Vanilla แต่ในเมนูนี้จะเป็น White Chocolate ครับ ซึ่งอาจจะมีคาเฟอีนจากช็อคโกแลตอยู่บ้าง แต่มันก็ช่วยให้เราสามารถอยู่และนั่งทำงานขนเสร็จได้เลยละครับ

วิธีการสั่ง

  • White Chocolate Mocha Frappuccino
  • เพิ่มน้ำเชื่อมราสเบอร์รี่ (ซึ่งหากต้องการขนาดไซส์ Tall เพิ่ม 1 ปั๊ม สำหรับไซส์ Grande 1.5 ปั๊ม และสำหรับไซส์ Venti 2 ปั๊มครับ)

ราคาก็ขึ้นอยู่กับขนาดไซส์ของแก้ว โดยเริ่มที่ราคา Tall 140 บาท Grande 155 บาท Venti 170 บาท แล้วเพิ่มน้ำเชื่อมราสเบอร์รี่ (Raspberry) อีก 15 บาท วิปครีม (Whipped Cream) 15 บาท


ทั้งหมด 3 เมนูที่ผมได้แนะนำมานั้นเป็นเมนูที่หาได้ตามร้านสตาร์บัคส์ทุกร้าน และได้ในทุกเทศกาล แต่ก็จะมีเมนูบางประเภท ที่จะถือว่าลับไหม ก็น่าจะตอบยาก แต่ถ้าถามว่าหากินยากไหม ก็อาจจะยากครับ เพราะเป็นเมนูที่จะมาตามฤดูกาลเท่านั้น อย่างเช่นเมนูที่ผมชอบอีกหนึ่งเมนูคือ The Ultimate Christmas Drink ซึ่งเมนูนี้ชื่อจะพิเศษหน่อยๆ คือ "Strawberry Snowy Cream Frappuccino" โดยมันเป็นการผสมผสานระหว่างสตรอเบอร์รี่ซอสเข้มข้นกับไวท์ช็อคโกแลตมอคค่า พร้อมด้วยท็อปด้วยวิปครีมชาเขียวคล้ายต้นคริสต์มาสสีเขียวละครับ เวลาเทศกาลคริสต์มาสทีไร ก็ต้องไปซื้อกินทุกที แต่หากเลยช่วงเทศกาลก็จะหยุดขายนะครับ เป็นอะไรที่น่าเศร้ามาก

โดยวิธีการสั่งก็บอกชื่อเมนู Strawberry Snowy Cream Frappuccino ไปเลยครับ พี่พนักงานเขารู้


เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เมนูลับทั้ง 3+1 เมนูที่ผมอยากจะแนะนำ เป็นเมนูที่ผมและแฟนของผมต่างก็ชื่นชอบ และสั่งกันบ่อยมาก เสมือนว่าไม่ได้เป็นเมนูลับแต่อย่างใดเลยนะครับ และถ้าถามว่าหากเราไม่รู้ว่าต้องสั่งยังไง หรือไม่เข้าใจขั้นตอนการสั่งเมนูสตาร์บัคส์ ผมก็แนะนำว่าไม่ต้องไปกลัวครับ ยื่นโทรศัพท์ให้พนักงานอ่านตามที่ผมเขียนได้เลย เขารู้อยู่แล้วครับ ว่าเมนูลับที่ใครๆ ก็ต้องสั่ง แล้วก็จ่ายเงิน รับรองว่าได้กินเมนูลับสตาร์บัคส์อย่างแน่นอนละครับ หากเพื่อนๆ มีเมนูไหนที่ได้ลองชิมมา แล้วมันอร่อยมากๆ จนไม่อยากให้มันลับ ก็สามารถมาบอก มาแนะนำกันได้นะครับ