10 สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ที่ต้องมาให้ได้สักครั้งหนึ่ง
"ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผาชาติงามตา งามล้ำค่านครพิงค์" คำขวัญประจำจังหวัดเชียงใหม่ เมืองที่เรียกได้ว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ใครหลายคนต้องเคยมาท่องเที่ยวอย่างแน่นอนใช่ไหมละครับ เพราะเชียงใหม่เองก็ได้ขึ้นชื่อด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านของร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งธรรมชาติ ในบทความของ TamKung วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวเชียงใหม่กัน ว่ามีที่ไหนน่าสนใจ และน่าไปให้ได้สักครั้ง
{tocify} $title={Table of Contents}
1. วัดพระธาตุดอยสุเทพ
ดอยสุเทพถือว่าเป็นดอยที่สำคัญของเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ และทุกครั้งที่ไม่ว่าใครก็ตามมาเที่ยวที่เชียงใหม่ ที่แห่งนี้ก็จะเป็นตัวเลือกต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับการแนะนำให้มา นั้นคือดอยสุเทพครับ ซึ่งวัดพระธาตุดอยสุเทพก็ตั้งอยู่ในบริเวณบนดอยสุเทพแห่งนี้ โดยเขาก็เชื่อกันว่า หากมาสักการะและอธิษฐานขอพรพระธาตุดอยสุเทพ จะมีแต่ความสำเร็จสมหวังดังปรารถนา แคล้วคลาด ผ่านอุปสรรคนานาไปได้ครับ นอกจากนี้ยังมี บันไดนาคเจ็ดเศียร ซึ่งทอดยาวขึ้นไป 300 ขั้น ซึ่งพอถึงบริเวณวัดแล้วจะพบกับเจดีย์สีทองทรงเชียงแสน ซึ่งเป็นศิลปะล้านนาที่งดงามมากครับ
- เวลาเปิด-ปิด: เวลา: 08:00 น.-21:00 น.
- พิกัด : https://goo.gl/maps/qwLi5JhWjaigT66i6
2. พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
สำหรับใครที่เป็นสายถ่ายภาพธรรมชาติและดอกไม้ต้นไม้ ผมอยากจะแนะนำให้ลองขึ้นไปที่ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งตั้งอยู่บนดอยบวกห้า (ถ้าขับรถขึ้นดอยสุเทพ ก็จะเลยตัววัดพระธาตุดอยสุเทพขึ้นไปอีกหน่อยนะครับ) โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,343 เมตร จึงไม่ต้องพูดถึงเหล่าดอกไม้และธรรมชาติครับ เป็นประเภทไม้ป่าเมืองหนาวอย่างแน่นอน โดยที่ข้างบนนี้จะมีความเย็นสบายมาก แม้จะยังไม่ใช่ฤดูหนาวครับ ด้านในมีบริเวณพระตำหนักและสวนสวย ซึ่งผมชอบส่วนของกุหลาบ หลากพันธุ์ หลากสีสวยมากครับ สายถ่ายรูปดอกไม้ต้องถูกใจอย่างแน่นอน
แต่สถานที่แห่งนี้จะเข้มงวดกับการแต่งกายเพื่อการเข้าเยี่ยมชนสวนนะครับ โดยจะห้ามใส่กางเกงขาสั้นโดยเด็ดขาดไม่ว่าชายหรือหญิง ยีนส์ขาด กางเกงบาง เสื้อแขนกุดห้ามสวมใส่ครับ หากใครที่มาแล้วไม่ได้เตรียมชุดมา หน้าทางเข้าก็จะมีร้านให้เช่า แต่แนะนำว่าเตรียมชุดมาจะดีกว่าครับ โดยจะมีอัตราค่าเข้าชมคนละ 20 บาทนะครับ อยู่ได้ไม่จำกัดเวลาเลยละครับ
- อัตราค่าเข้า: เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท
- เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:30-11:30 น. และ 13:00-15:30 น. (ปิดให้เยี่ยมชมในช่วงที่มีการเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ)
- พิกัด: https://goo.gl/maps/RxkA9n8fzpqR993H6
3. หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ พิพิธภัณฑ์กลางเมืองเชียงใหม่
หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ก็จะเป็นอารมณ์เหมือนพิพิธภัณฑ์ครับ โดยภายในจะเป็นการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเมืองเชียงใหม่ และวิถีชีวิตวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งจะมีตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยมีห้องจัดนิทรรศการทั้งหมด 15 ห้อง และจะจัดตามหมวดหมู่ ตามช่วงเวลาครับ ทั้งเรื่องของยุคสร้างบ้านสร้างเมือง ยุครุ่งเรืองของล้านนา ยุคเสื่อมถอย การเปลี่ยนแปลงเป็นเชียงใหม่ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยนอกจะมีการจัดนิทรรศการที่ว่ามาแล้ว ซึ่งจะอยู่ถาวรนะครับ จะยังมีการเวียนจัดนิทรรศการศิลปะต่างๆ ให้ได้เข้าเยี่ยมชม
หากใครชอบเรื่องของประวัติศาสตร์ รวมไปถึงเรื่องของศิลปะ ที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องลองไปเยี่ยมชมครับ และในบางครั้งที่มาถูกช่วงเวลา ก็อาจจะได้เจอการจัดงาน Chiang Mai Design Week ที่จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี บริเวณรอบเมืองเชียงใหม่ ซึ่งตรงหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ก็จะเป็นเหมือนแหล่งศูนย์กลางการจัดงานอยู่แล้ว โดยในงานนั้นเป็นการจัดงานแสดงผลงานศิลปะ ที่จะมีทั้งการผสมผสานวัฒนธรรม รวมถึงไปเรื่องแฟชั่นด้วยครับ (แนะนำว่าให้ลองดูข้อมูลก่อนการจัดงาน จะได้มาหาที่ถ่ายรูปสวยๆ ได้นะครับ)
- อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท นักเรียน/นักศึกษา 10 บาท
- เวลาเปิด-ปิด: วันพุธ - วันอาทิตย์ (ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 08.30 - 16.30 น.
- พิกัด: https://goo.gl/maps/eWL9RBfp91ZBeD388
4. ประตูท่าแพ
หากมีเพื่อนที่มาเที่ยวเชียงใหม่ และจะโพสต์รูปตอนเที่ยวแล้วละก็ ต้องมีรูปที่ถ่ายจากประตูท่าแพเชียงใหม่อย่างแน่นอนเลยครับ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ที่ไม่ว่าจะมาจากไหน ก็ต้องมาถ่ายรูปที่นี้ให้ได้ละครับ โดยที่ประตูท่าแพนี้เป็นเหมือนประตูเมืองเก่าที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเชียงใหม่ (ซึ่งจริงๆ แล้วเมืองเชียงใหม่จะมีกำแพง และคูเมืองอยู่ล้อมรอบ และจะมีส่วนตรงนี้เป็นทางเชื่อมไปที่ต่างๆ ครับ เขาเลยเรียกว่าประตูท่าแพ) บริเวณประตูท่าแพจะเห็นแนวกำแพงเมืองเก่าซึ่งสร้างด้วยอิฐ มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์มากครับ
นอกจากจะเป็นที่ถ่ายรูปแล้ว จริงๆ ก็ยังเป็นเหมือนสถานที่ที่นิยมในการจัดงานเทศกาลต่างๆ ทั้งงานลอยกระทง ที่เมื่อก่อนเราจะเห็นภาพติดตาที่สวยงามกับการปล่อยโคมลอยขึ้นฟ้านับหมื่นๆ ลูกแต่ตอนนี้เหมือนจะงดไปแล้วนะครับ จะอนุญาตเฉพาะที่จริงๆ และนอกจากนี้ยังมีถนนคนเดินท่าแพที่ขึ้นชื่อ โดยจัดถนนคนเดินทุกๆ วันอาทิตย์ให้นักท่องเที่ยวมาเดินเริ่มจากจุดนี้ ไปจนถึงบริเวณวัดพระสิงห์วรมหาวิหารเลยครับ แต่ข่วงนี้ติดปัญหาโรคโควิด ทำให้ถนนคนเดินต้องพับเก็บ รอสถานการณ์ดีขึ้นก็น่าจะกลับมาจัดเหมือนเดิมครับ
5. วัดรอบเมืองเชียงใหม่
เชียงใหม่เป็นเมืองอีกเมืองหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องวัดครับ เพราะสมัยก่อนเป็นเมืองแห่งล้านนา และจะมีวัดอยู่เยอะมากๆ และใกล้กันมากๆ หากผมต้องมารีวิววัดแต่ละที่แล้วละก็ คงต้องแยกไปอีกบทความหนึ่งเลยละครับ เอาเป็นว่าผมขอยกมาเป็นตัวอย่างกันนะครับ
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
โดยที่วัดพระสิงห์ หรือ ที่ชื่อวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นวัดที่สำคัญของเชียงใหม่มากๆ และเป็นวัดสำคัญในประวัติศาสตร์แผ่นดินล้านนาอีกด้วยละครับ ซึ่งภายในวัดจะมีพระพุทธรูปสำคัญคือ พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชร มีวิหารลายคำซึ่งมีจิตรกรรมฝาผนังงดงาม ใครมาก็จะชอบถ่ายรูปจิตรกรรมที่สวยงามกลับบ้านไป
- เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 06:00 น.- 17:00 น.
- พิกัด : https://goo.gl/maps/RrAtKhRsrm3fD5jDA
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
วัดเจดีย์หลวงนี้หรือว่าวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่เลยครับ (อยู่ระหว่างเส้นทางของถนนคนเดินท่าแพเลย) เป็นวัดที่ประดิษฐานเจดีย์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจากประวัติศาสตร์ ก็ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าแสนเมือง และขยายขนาดให้สูงขึ้นและกว้างขึ้นกว่าเดิมในสมัยพระยาติโลกราชครับ ซึ่งเราจะเห็นว่าปลายยอดเจดีย์ไม่มีอะไรเหลือ นั้นก็เพราะในอดีตภาคเหนือของเราได้รับแรงสั่นสะเทือน จากการเกิดแผนดินไหวจากรอยเลื่อนแม่ทา ทำให้ยอดของเจดีย์ถล่มลงมา จนเป็นเหมือนในปัจจุบันครับ
- อัตราค่าเข้า: ชาวไทยฟรี ชาวต่างชาติ 40 บาท
- เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 น.- 17:00 น.
- พิกัด : https://goo.gl/maps/ycbPaFgRjyKefuTFA
6. One Nimman
หากใครเป็นสายเดินเที่ยว ถ่ายรูปและซื้อของ ผมก็อยากจะแนะนำให้ลองไปเดินเที่ยวที่ One Nimman ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนนิมมานทร์เหมินทร์ โดยนับว่าเป็นที่เที่ยวอีกแห่งที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของในเมืองเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ละครับ เนื่องจากที่ตรงนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวนิยมมามากของชาวจีนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีสถาปัตยกรรมล้านนาร่วมสมัยผสมผสานกับตะวันตกให้ถ่ายรูปกันสวยๆ รวมถึงมีร้านอาหาร พื้นที่ศิลปะ คาเฟ่ บาร์ แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ทั้งแบบที่เป็นอาหารพื้นบ้าน ไปจนถึงอาหารฟิวชันให้ได้ลิ้มลองกัน
นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่างๆ ให้ได้ใช้จ่ายซื้อของฝาก ซึ่งที่นี้จะไม่ได้เป็นเหมือนร้านขายของฝากตามสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อย่างที่เราได้เจอกัน แต่ที่นี้จะเป็นของงานประดิษฐ์ที่ผสมนามความล้านนาเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัวครับ ใครอยากจะซื้อของไปฝากที่บ้านหรือสำหรับชาวต่างชาติก็มีมารวมให้ที่แห่งนี้เลย ไม่ต้องไปไกลที่ไหนก็ได้ของฝากอย่างแน่นอน
- เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 น.- 22:00 น.
- พิกัด : https://g.page/onenimman
7. สวนสัตว์เชียงใหม่
สวนสัตว์เชียงใหม่นับว่าเป็นสถานที่ความทรงจำในวัยเด็กของนักเรียนเชียงใหม่อย่างแน่นอนครับ เพราะว่าตอนที่เป็นนักเรียนโรงเรียนต้องได้พามาทัศนศึกษาอย่างน้อย 1 ครั้งแน่นอน นั้นจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมอยากจะแนะนำครับ ความจริงแล้วมันก็อาจจะไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษมากกว่าการได้มาเดินอยู่ในสวนสัตว์หรอกครับ โดยภายในนี้มีสัตว์นานาชนิด และแบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน รวมถึงยังมีกิจกรรมมากมายอีกด้วยละครับ ซึ่งสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี้คือ น้องแพนด้านั้นเอง โดยเป็นแพนด้าที่นำเข้ามาจากจีน และมีเติบโตที่นี้ ซึ่งอย่างน้อยก็มาดูน้องๆ ก็น่ารักดีนะครับ
อีกแห่งหนึ่งที่นิยมมาควบคู่กันนั้นคือ เชียงใหม่ซู อควาเรียม (Chiang Mai Zoo Aquarium) หรือพูดง่ายๆ คือศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำครบวงจร แห่งแรก หนึ่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยอุโมงค์ใต้น้ำขนาดใหญ่ และถือได้ว่ามีความยาวมากที่สุดในโลกละครับ โดยมีการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ แสดงทั้งพันธุ์สัตว์น้ำจืดและน้ำเค็มมากกว่า 20,000 ตัว จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ แสดงมากกว่า 250 สายพันธุ์ซึ่งเป็นที่ที่ผมมาและต้องแวะมาเดินดูน้องปลาว่ายไปว่ายมา น่ารักไปอีกแบบหนึ่งนะครับ
- อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก (สูงไม่เกิน 135 ซม.) 20 บาท นักเรียน นักศึกษา 50 บาท
- เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 10:00 น.- 16:00 น.
- พิกัด : https://goo.gl/maps/ycbPaFgRjyKefuTFA
8. กาดหลวง หรือ ตลาดวโรรส
ใครมาเที่ยวและกำลังจะเดินทางกลับแล้วละก็ ต้องได้แวะมากาดหลวง หรือ ตลาดวโรรส ที่นี้สักครั้ง เพราะที่ตลาดนี้เป็นเหมือนแหล่งรวม ของกินเชียงใหม่นี่ขึ้นชื่อว่าอร่อยอยู่มากมาย โดยส่วนมาเป็นอาหารพื้นเมืองภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกหนุ่มที่ขึ้นชื่อ หรือไส้อั่วแสนอร่อย ก็มีให้บริการซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ ซึ่งมีพร้อมทั้งแบบพร้อมทานและเอากลับไปย่างกินที่บ้านก็ได้ครับ เป็นสถานที่ที่ต้องมาแวะซื่อของฝากอย่างแน่นอนครับ
นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ยังมีอาคารและบ้านเรือนที่ยังคงเก็บไว้ให้เป็นความทรงจำของประวัติศาสตร์อีกด้วยครับ โดยในแต่ละซอยก็จะเชื่อมถึงกัน มีมนต์เสน่ห์ เหมาะกับการถ่ายรูปแนวสตรีทมากๆ และเหมาะกับการมาเดินเลือกซื้อของแบบชิวๆ อีกด้วยละครับ
- เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 04:00 น.- 18:00 น. (ความจริงตลอดทั้งวัน แต่เลยเวลานี้จะไม่มีร้านไหนเปิดแล้วครับ)
- พิกัด : https://goo.gl/maps/RcSpzgVufyhfVaLA8
9. ปางช้างแม่สา
ปางช้างแม่สาเป็นปางช้างที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือครับ โดยมีช้างอยู่หลายเชือกมากๆ ให้เราได้ดู ได้ให้อาหารน้องๆ โดยที่เราจะสามารถทั้งดูการแสดงโชว์ ให้อาหาร หรือใครอยากจะไปเล่นกับน้องๆ ก็มีให้บริการทั้งอาบน้ำกับช้าง นั่งหลังช้าง ดูการแสดงจากน้องช้าง ได้ลองเรียนรู้การใช้ชีวิตกับควาญช้าง สัมผัสช้างอย่างใกล้ชิดด้วยละครับ
โดยการเดินทางมาที่ปางช้างแม่สานั้นไม่ยากเลยครับ อยู่แถวแม่ริม โดยตัวปางช้างแม่สาจะอยู่ติดบริเวณทางขึ้นเขาทำให้มีลำธารน้ำตกไหลผ่าน ค่อนข้างร่มรื่นเป็นธรรมชาติมาก ปางช้างที่นี่มีพื้นที่กว้างขวาง ค่าเข้าฟรี มีหลายกิจกรรมให้เลือก ตั้งแต่ให้อาหาร ขี่ช้าง ดูช้างวาดรูป แต่ที่เป็นเฉพาะจะเป็นกิจกรรมอาบน้ำช้าง อัตราคนละ 1,200 บาทครับ ซึ่งจะได้ไปเล่นน้ำในริมธารกับน้องๆ เลย
- เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 น.- 16:00 น.
- พิกัด : https://goo.gl/maps/Jg3Nv6ohCTkHaww68
- ข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/Maesaelephantcamp
10. คาเฟ่เชียงใหม่
ค่าเฟ่ในเชียงใหม่เป็นอีกอย่างที่ใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ ต้องได้เข้าไปเยี่ยมเยียน ซึ่งมันมีอยู่ทั่วเชียงใหม่ และเพิ่มมากยิ่งขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหมือนกับการเที่ยววัดครับ หากผมจะรีวิวคาเฟ่เชียงใหม่ ก็คงต้องมีอีกบทความเลย ก็เลยขอยกตัวอย่างมาหน่อยนะครับ ซึ่งผมเคยเขียนบทความเรื่องคาเฟ่เชียงใหม่ไปแล้ว ลองเข้าไปอ่านบทความของผมก่อนก็ได้ครับ
Hills Borough Chiangmai คาเฟ่สีขาวสุดชิค สไตล์อิงริชที่เชียงใหม่
คาเฟ่แห่งนี้เป็นอีกที่หนึ่งที่ต้องมาให้ได้ เพราะมีการจัดสถานที่ให้เหมือนกับอยู่อังกฤษเลยละครับ เป็นทั้งที่พักและคาเฟ่สไตล์อังกฤษ ในจังหวัดเชียงใหม่ แถมอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของป่าสนสวย ๆ มีภูเขาสูงโอบล้อม มีทุ่งหญ้า มีดอกไม้ แล้วบรรยากาศอย่างดี โดยเป็นที่นิยมในการมาถ่ายรูปคู่กับต้นสน ที่วางเรียงรายอยู่ ให้เรามาถ่ายรูปเสมือนอยู่อังกฤษยังไงอย่างงั้น นอกจากนั้นภายในคาเฟ่ยังมีการตกแต่งโทนอิฐสีส้มน้ำตาล มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งอยู่ครับ ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยได้
นอกจากนี้ยังมีให้บริการห้องพักด้วยครับ โดยเป็นโรงแรมให้สามารถนอนค้างคืนได้ ที่ถ้าเราเดินไปเรื่อย ก็จะเจอกับเหล่าสัตว์ต่างๆ แสนน่ารักทั้งสุนัข แมว ไก่ เป็ด ที่ทางโรมแรมได้เลี้ยงเอาไว้เพื่อเพิ่มบรรยากาศให้ดูเป็นชนบทอังกฤษมากขึ้น รวมถึงคาเฟ่เล็กๆ น่ารักๆที่ให้คนภายนอกได้เข้ามาได้สัมผัสกับบรรยากาศของที่นี่นั้นเองละครับ
- ราคา: เมนูเริ่มต้น 100 บาท
- ราคาห้องพัก: เริ่มต้นที่ 4,200 – 7,800 บาท/ห้อง
- เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 น.- 18:00 น.
- พิกัด : https://goo.gl/maps/DvXByXuCuHQabeuY6
เป็นยังไงกันบ้างละครับ กับสถานที่ท่องเที่ยว 10 แห่งที่ผมภูมิใจนำเสนอเลย หวังว่าหากใครได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่ ก็อยากจะให้ได้ลองไปสัมผัสกับบรรยากาศเดียวกับที่ผมได้รับมานะครับ หากใครได้ลองไปเที่ยวมาแล้ว มาลองแบ่งปันความรู้สึกรวมถึงอยากจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแห่งไหนอีก ลองมาพูดคุยกันได้นะครับ