รีวิว SamsungGalaxyS22Ultra มือถือน่าใช้ 2566 แม้เครื่องจะเก่าแต่ฟีเจอร์จัดเต็ม
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสได้ทดลองใช้ Samsung Galaxy S22 Ultra มาแล้ว รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ว้าวมากๆ และในบทความของ TamKung วันนี้เราจะมารีวิว Samsung Galaxy S22 Ultra มือถือน่าใช้ 2566 แม้เครื่องจะเก่าแต่ฟีเจอร์จัดเต็มกัน
ต้องบอกก่อนว่าตัวเครื่องออกมาวางจำหน่ายเมื่อปี 2022 นั่นก็คือเมื่อปีที่แล้ว และแม้ว่าจะผ่านมาแล้ว 1 ปี แต่ Samsung Galaxy S22 Ultra ก็ยังมีความนิยมอย่างมากในตลาดของโทรศัพท์มือถือ ที่ครอบคลุมทั้งการใช้งานและการถ่ายภาพที่หลายคนก็คงจะได้ยินชื่อเสียงอยู่แล้วนะครับ ว่า Samsung Galaxy S22 Ultra ทั้งเร็วแรงและความสามารถในการถ่ายภาพนั้นดีมากๆ
ลักษณะตัวเครื่องภายนอกจะมีจอขนาด 6.8 นิ้ว ซึ่งเป็นจอแบบจอ Dynamic AMOLED 2X 24-bit ให้ภาพคม และได้มิติ โดยมีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1440 X 3080 พิกเซล แถมตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 227 กรัมเท่านั้น อาจจะไม่ได้เบามาก เพราะด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ตัวเครื่องบางครับ อาจจะจับยากในบางผู้ใช้งาน แต่สำหรับผมแล้วรู้สึกว่ากำลังดีเลยครับ
นอกจากนี้สามารถปรับอัตราการแสดงภาพของหน้าจอได้สูงถึง 120 Hz ลื่นไหลไม่กระตุกจริงๆและยังมีฟีเจอร์อย่าง Always on Displayให้สามารถแสดงผลตลอดเวลา โดยไม่ต้องให้มันดับนั่นเองครับ และด้วยเหตุนี้ทำให้ Samsung Galaxy S22 Ultra มีปากกา stylus ที่สามารถให้เราขีด เขียน วาดและระบาย หรือจะเป็นรีทัชรูปภาพได้ภายในปากกาแท่งเดียว ซึ่งก็เป็นจุดเด่นของ Samsung มานานแล้วครับ
ในส่วนของชิปประมวลผล Samsung Galaxy S22 Ultra ใช้เป็น Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 Octa Core ซึ่งเป็นชิ้นตัวใหม่ล่าสุดในตอนนั้น และได้ความเร็วถึง 3.0 GHz เรียกได้ว่าเร็วของแท้ และยังเป็นรุ่นที่ใช้ชิปตัวใหม่มากๆ เรียกได้ว่าตอนที่เปิดตัว Samsung Galaxy S22 Ultra ก็กลายเป็นตัวยืนหนึ่งที่เร็วแรงจริงๆครับ
โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการอย่าง One UI 4.1 โดยพัฒนามาจาก Android 12 ให้เราสามารถเลือกหน่วยความจำของแรมได้ที่ 8 GB กับ 12 GB หรือ Rom ที่ให้เลือกระหว่าง 128 GB - 512 GB
ในส่วนของกล้องถ่ายรูป ที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เด่นสำคัญของ Samsung Galaxy S22 Ultra นั่นก็เป็นเพราะว่ามีกล้องให้เลือกใช้งานถึง 4 ตัวด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วย กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิก กล้องที่เป็นการเก็บมุมกว้างอย่าง Ultrawide ได้ความละเอียดถึง 12 ล้านพิกเซล หรือจะเป็นกล้อง telephoto ที่ให้ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล หรือจะเป็นกล้องแบบ Periscope ให้ความละเอียดถึง 10 ล้านพิก และกล้องหน้าความละเอียด 40 ล้านพิก โดยจุดเด่นของมันคือการที่เราสามารถเก็บภาพได้กว้าง และสามารถเลือกเลนส์ที่ถ่ายรูปซูมได้ถึง 100 เท่า เหมือนที่ผมได้ทดลองการใช้งานมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากๆ ภาพไม่ได้ขี้เหร่เลยครับ
ซึ่งรูปภาพสามารถมีขนาดใหญ่สุด 12,000 x 9,000 พิกเซล ซึ่งนอกจากที่จะสามารถเก็บภาพได้ใหญ่ ยังมีระบบป้องกันภาพสั่นแบบ OIS ที่ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอก็จะให้ภาพดูสมูทและนิ่งมากๆครับ ไม่ต้องไปซื้อไม้กันสั่นเพิ่มเลย ซึ่งมันเป็นผลมาจากการที่มีระบบกันสั่นอย่าง Electronic Image stabilization ที่จะใช้ซอฟต์แวร์มาเป็นตัวประมวลผลทำให้ภาพนั้นไม่สั่น สามารถเก็บภาพได้ละเอียดจริงๆ แถมมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกค่อนข้างเยอะ ให้เอามาเล่นได้อย่างไม่สุดจริงๆ
การถ่ายวีดีโอก็เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจ โดยเราสามารถบันทึกกล้องหลังได้ในระดับ 8K ที่ 24 เฟรมต่อวินาที ดูด้วยความละเอียด 7680 x 4320 พิกเซล หรือจะเป็นกล้องหน้าที่สามารถบันทึกวีดีโอระดับ 4k ได้ถึง 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งจากที่ผมใช้งานมาผมได้ลองถ่ายแบบ 4k ที่ 60 เฟรมต่อวินาทีมา เรียกได้ว่าค่อนข้างสมูทและทำได้ดีคุณภาพเก็บมาได้อย่างครบถ้วนจริงๆครับ บวกกับระบบกันสั่นแล้วเนี่ยทำให้เราได้วีดีโอที่คมชัดมาก
อีกทั้งแม้ว่าตัวจะใหญ่จอจะใหญ่แต่แบตเตอรี่ให้มาก็ไม่เรียกว่าน้อย โดยให้แบตเตอรี่ความจุถึง 5,000 mAh ใช้งานได้ยาวๆ รวมไปถึงรองรับการชาร์จไว หรือ Fast Charging ที่ 45 W โดยสามารถฟังเพลงได้ต่อเนื่องถึง 81 ชั่วโมงเลย
นอกจากนี้ก็จะเป็นระบบของ Application ต่างๆที่ Samsung ก็ทำได้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ Samsung Galaxy S22 Ultra เป็นเหมือนเครื่องเรือธงก็เลยต้องเติมความสามารถในด้านการถ่ายภาพเข้าไปอีกนั่นเองครับ โดยผมมองว่าสำหรับใครที่ต้องการโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง ที่เป็นได้มากกว่าโทรศัพท์ สามารถถ่ายภาพได้คม ทุกมิติ ก็อยากจะแนะนำให้ลองไปเล่นกับ Samsung Galaxy S22 Ultra ดูครับเพราะจะรู้สึกเหมือนผมที่ว่ามันคุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆ