เมื่อจีนเปิดประเทศ!! เข้าจีนไม่ต้องกักตัว แล้วจะเป็นยังไงต่อ เราต้องทำอะไรบ้างไหม?
หลังจากที่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราได้ทราบข่าวว่าประเทศจีนจะทำการเปิดประเทศ ให้สามารถเข้าโดยที่ไม่ต้องกักตัวและไม่มีมาตรการ Zero-Covid อีกแล้วนะครับ วันนี้ในบทความของ TamKung วันนี้เราจะมาพูดคุยกันในเรื่องของ ประเทศจีนเปิดประเทศ แล้วยังไงต่อ
ในฐานะที่ผมได้เป็นหนึ่งในนักศึกษาที่ไปเรียนมหาวิทยาลัยในประเทศจีน ก็ค่อนข้างจะรู้สึกตื่นเต้นกับข่าวนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลายาวนานที่เราไม่ได้กลับเข้าประเทศจีน และยังต้องอยู่ในประเทศไทยนะครับ นับว่าเป็นข่าวที่ดีอีกหนึ่งข่าวที่จะทำให้เราได้มีโอกาสเดินทางกลับประเทศจีนเพื่อไปศึกษาต่อตามที่เราคาดหวังไว้
เรามาเริ่มต้นกับมาตรการที่ออกมาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานะครับ ซึ่งจะมีความเกี่ยวข้องกับกฎตัวใหม่นี้ที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ โดยตามประกาศที่ออกมาเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็น 7 ข้อที่ทางประเทศจีนได้ออกมาตรการมาใหม่ก่อนที่จะมาเป็นมาตราการล่าสุดกันครับ
- จะไม่มีการล็อคแบบตามหมู่บ้าน หรือชุมชน หรือพูดง่ายๆ ว่าจะไม่มีการปิดแบบวงกว้างอีกต่อไปครับ จะมีการจัดการดูแลเฉพาะสถานที่เล็กๆ เช่นตึก ชั้นหรือว่าห้องที่มีผู้ติดเชื้อเท่านั้น
- ได้มีการยกเลิกการใช้โค้ดรหัสสุขภาพหรือ 健康吗 ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นหมอพร้อมบ้านเรานั่นแหละครับ
- สำหรับผู้ที่ติดเชื้อที่ไม่มีอาการรุนแรง สามารถเลือกกับตัวที่บ้านได้ครับ หรือการทำ Home Isolation ได้ โดยหากเป็นเมื่อก่อน จะต้องไปในสถานที่กักตัวของรัฐบาลที่จัดให้เท่านั้นครับ
- ยกเลิกการตรวจโควิดแบบหมู่แล้วนะครับ เพราะจากที่ผมได้คุยกับเพื่อนที่อยู่ประเทศจีนเพื่อนเล่าให้ฟังว่าทุกเช้าจะต้องไปตรวจโควิตไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็นก็ตาม ก็ต้องไปยืนต่อแถวกันทำให้เวลาเรียนนั้นหายไปครับ
- หากเดินทางข้ามเมืองหรือว่าค่ามณฑลจะไม่ต้องตรวจ covid แล้ว จากที่เมื่อก่อนแม้แต่เพียงแค่ข้ามเมืองก็จำเป็นจะต้องตรวจครับ และหากติด Covid ก็ต้องรักษาภายในเขตนั้นเลย
- เน้นให้มีการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวครับ
- หากใครที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสามารถหยุดกับตัวที่บ้านได้นานถึง 5 วันโดยที่ไม่มีผลกับการหักเงินเดือน
ซึ่งกฎที่ออกมา 7 ข้อนี้ก็ส่งผลทำให้เกิดมาตรการใหม่ล่าสุดที่ทางประเทศจีนได้ประกาศออกมาครับ นั่นคือการยกเลิกการกักตัวระหว่างผู้เดินทางระหว่างประเทศ และอนุญาตให้บุคลากรชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศจีนได้ รวมไปถึงสามารถให้บุคลากรต่างชาติที่มีวีซ่าต่างๆ ที่อนุญาตเดินทางเข้าประเทศจีนได้ โดยไม่มีการกักตัว แต่จำเป็นจะต้องมีผลตรวจ Covid เป็นลบก่อนการบิน 48 ชั่วโมงครับ
โดยวีซ่าที่จะสามารถเดินทางเข้าประเทศจีนได้สำหรับชาวต่างชาตินั่นก็คือ วีซ่าประเภทเยี่ยมญาติ วีซ่าทำงาน วีซ่านักเรียนนักศึกษา และวีซ่าธุรกิจ ส่วนวีซ่าท่องเที่ยวยังไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศจีนได้ครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีการยกเลิกการยื่นขอ Health Declaration ซึ่งแต่ก่อนจะต้องขอกับทางสถานทูตจีนมีการทำข้อมูลทำเอกสารที่ค่อนข้างยาวนานนะครับ แถมจะต้องผ่านหลายองค์กรด้วยแต่ตอนนี้เราไม่จำเป็นจะต้องไปทำเอกสารสุขภาพเหล่านั่นแล้ว
โดยมาตรการทั้งหมดนี้จะเริ่มดำเนินการวันที่ 8 มกราคม 2566 นี้ อย่างไรก็ดีในเรื่องของวีซ่านักศึกษาและนักเรียนที่ผมกำลังเรียนอยู่นั้น ก็มีคำสั่งจากทางรัฐบาลว่ามหาลัยจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบ รวมไปถึงความยินยอมจากทางมหาลัยเองนะครับ ไม่ได้หมายความว่าทุกมหาลัยจะมีมาตรการเดียวกันเพราะฉะนั้นแล้ว หากเพื่อนๆ นักศึกษาคนใดที่ต้องการเดินทางกลับประเทศจีนเพื่อไปศึกษาต่อก็ควรจะศึกษาข้อมูลจากทางมหาลัยก่อนเสมอ
ซึ่งในมหาลัยของผมที่เรียนอยู่ตอนนี้ก็ได้มีมาตรการออกมาแล้วว่าหากใครต้องการเดินทางกลับประเทศเพื่อไปศึกษาต่อจำเป็นจะต้องทำเอกสารก่อนนะครับ
ในความคิดของผมตอนนี้คิดว่าอาจจะยังไม่ได้กลับจีนในต้นปีหน้านะครับ เนื่องจากผมคิดว่าตอนนี้เนี่ยผมก็อยู่ปี 4 แล้ว และก็เหลือเวลาอีกไม่มากในการทำวิทยานิพนธ์ จึงเลือกที่จะทำงานให้จบที่ประเทศไทยก่อนนะครับ ก่อนที่จะเดินทางไปต่อปริญญาโทที่ประเทศจีนในช่วงปลายปีหน้า ซึ่งผมคิดว่าในช่วงเวลานั้นไงก็จะเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างปลอดภัยแล้วก็ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นอย่างมาก
สถานการณ์ปัจจุบันในตอนนี้ก็ยังดูน่าเป็นห่วงเนื่องจากมีการยกเลิกมาตรการต่างๆ ที่ฉับพลันมากๆ เพื่อนๆ หลายคนที่อยู่ในประเทศจีนตอนนี้ก็ยังเริ่มกังวลว่าอาจจะมีปัญหาในอนาคตก็เป็นไปได้ แต่ก็ยังเป็นสัญญาณที่ดีที่จะส่งให้เราเห็นว่าประเทศจีนนั้นได้ยกเลิกคำสั่ง Zero-Covid แล้ว ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นในปีหน้าครับ
หากใครต้องการเดินทางกลับไปยังประเทศจีนก็อยากจะให้เตรียมตัวและเตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อมก่อนเวลาการเดินทางประมาณ 3-4 เดือนนะครับ เนื่องจากตอนนี้หลายประเทศก็ค่อนข้างจะผลักดันให้นักศึกษานั้นเดินทางกลับประเทศจีน อาจจะทำให้เกิดความล่าช้าได้เอกสารก็ให้ศึกษาข้อมูลรวมไปถึงติดตามทุกอย่างให้ดีที่สุดนะครับ เป็นกำลังใจทุกคนครับ
ขอขอบคุณข้อมูลประกอบบทความ 大观新闻 | china-embassy