https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1600w/public/2022-12/20221220-1.png?itok=0IXgK4hy

เรียกได้ว่าตอนนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ใครหลายคนกำลังตัดสินใจจะเดินทางท่องเที่ยว ในช่วงต้นปี 2023 นะครับ ซึ่งวิธีที่ผมอยากจะนำเสนอมากๆ เลยกับการท่องเที่ยวไปในจังหวัดต่างๆ นั่นคือวิธีการนั่งรถไฟไทยนั่นเองครับ ในบทความของ TamKung วันนี้ เราจะมารีวิวการนั่งรถไฟไทยชั้น 1 ฉบับปี 2023 มีดีอะไร? คุ้มค่าราคาที่จะเดินทางหรือไม่? ครับ


ต้องบอกเลยว่าการเดินทางด้วยรถไฟในยุคปัจจุบันนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องที่เชยแล้วนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางจากเชียงใหม่สู่กรุงเทพฯ รถไฟไทยขบวนที่ 10 ประเภทด่วนพิเศษ CNR ที่ได้มีการปรับปรุงและมีความทันสมัยเพิ่มมากยิ่งขึ้น เรียกว่ารู้สึกประทับใจแล้วก็อยากจะกลับไปนั่งอีกเลยครับ

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20221220-1_0006_IMG_3464.jpg?itok=-_VlZeMi

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั๋วรถไฟไทยชั้น 1 มีความหรูหราและมีเอกลักษณ์มากๆ เลยล่ะครับ สักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องลองขึ้นไปนั่งให้ได้ เพราะว่าตอนนี้มีการปรับปรุงขบวนรถไฟให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นครับ มีการปรับปรุงรูปแบบ ทำให้ดูมีความสวยงาม น่านั่งมากๆ แถมมีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นครับ

ก่อนอื่นเรามาเริ่มขั้นตอนของการจองตั๋วรถไฟกันก่อน ผมต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า หากใครต้องการเดินทางด้วยรถไฟไทยจำเป็นต้องจองล่วงหน้าหลายเดือนหน่อยนะครับ เนื่องจากว่าตอนนี้ผมเดินทางแทบจะไม่มีตั๋วเหลือเลย วิธีการจองตั๋วรถไฟไทยนะครับก็สามารถจองได้ผ่าน 2 ช่องทาง คือที่สถานีรถไฟจังหวัดไหนก็ได้นะครับ หรือจะเป็นการจองตั๋วรถไฟออนไลน์


ซึ่งวันนี้เราจะมานำเสนอขั้นตอนการจองตั๋วรถไฟออนไลน์กัน

  • ขั้นตอนที่ 1 เข้าสู่เว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เป็นส่วนของการจองตั๋วรถไฟ - Dticket

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20221220-1_0006_Screenshot 2565-12-20 at 09.09.27.jpg?itok=eCsx8UZQ

  • ขั้นตอนที่ 2 ให้เข้าสู่ระบบ หากใครที่ยังไม่มีบัญชีก็ต้องสมัครสมาชิกกันก่อนนะครับ โดยจะต้องใช้ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล โดยจะมีการยืนยันตัวตนด้วยนะครับ

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20221220-1_0005_Screenshot 2565-12-20 at 09.09.41.jpg?itok=Z_JTgyIg

  • ขั้นตอนที่ 3 ให้เลือกสถานีต้นทาง และสถานีปลายทาง ก่อนจะเลือกวันที่เดินทาง และระบุจำนวนผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางครับ และให้กดคำว่า “ค้นหา”

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20221220-1_0004_Screenshot 2565-12-20 at 09.10.18.jpg?itok=vSK0Ly1e

  • หลังจากนั้นเราก็ต้องมาเลือกขบวนโดยสารนะครับ ว่าเราจะเลือกขบวนไหน โดยที่เวลาออกจากสถานีต้นทางมีตั้งแต่ 6:30 น. จนถึง 22:00 น. แต่หากใครที่ต้องการจะทดสอบขบวนใหม่ที่มีการปรับปรุง อาจจะต้องเลือกขบวนที่ 9 หรือขบวนที่ 10 ที่เป็นประเภทแบบด่วนพิเศษ CNR นะครับ โดยจะมีออกจากสถานีต้นทางอย่างกรุงเทพฯ เวลา 18:10 น. แล้วถึงสถานีปลายทางเชียงใหม่เวลา 7:15 น. หรือหากเป็นขบวนสถานีต้นทางอย่างเชียงใหม่ เวลา 18:00 น. และจะถึงสถานีปลายทางกรุงเทพฯเวลา 6:50 น. ยังไงก็เผื่อเวลาเดินทางด้วยนะครับ

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20221220-1_0003_Screenshot 2565-12-20 at 09.10.54.jpg?itok=zPBgFR8U

  • แล้วจากนั้นก็ให้เราเลือกขบวนที่ว่างอยู่นะครับ ซึ่งบอกแล้วนะครับว่าขบวนพิเศษ CNR แบบนี้ ชั้น 1 จัดเต็มเร็วมาก เพราะฉะนั้นแล้วจองล่วงหน้าให้ดี ดูเวลาให้แม่นนะครับ แต่หากเมื่อเราสามารถเลือกได้แล้วเราก็ทำการใส่ชื่อผู้ที่ต้องการจะเดินทางด้วยนะครับ และเลือกที่นั่งได้เลย

คำเตือนตัวใหญ่ๆ ที่ผมเจอมาเลยก็คือ เราจะไม่สามารถเลือกห้องโดยสารที่เป็นเพศตรงข้ามได้นะครับ จำเป็นจะต้องจองด้วยเพศเดียวกันเท่านั้นนะครับ เพราะว่ามันมีปัญหาเรื่องระบบออนไลน์อยู่ รวมไปถึงการเปลี่ยนตั๋วนะครับ เราสามารถเปลี่ยนแปลงตั๋วได้แค่ 1 ครั้งเท่านั้น เพราะผมโดนมาแล้วไม่อยากให้ทุกคนได้เจอปัญหาแบบนี้เหมือนกันนะครับ

หลังจากที่เราทำการจองแล้วก็ให้ชำระเงินให้เรียบร้อย ทางระบบก็จะส่งอีเมลตั๋วของเราไปให้ วันเดินทางก็ให้พิมพ์ออกมาด้วยนะครับ เพราะว่าการตรวจตัวยังต้องใช้การพิมพ์ เสร็จสิ้นขั้นตอนการจองตั๋วเราไปเข้าสู่ขั้นตอนการเดินทางเลยดีกว่าครับ


การเดินทางของเราเริ่มต้นกันที่สถานีเชียงใหม่ครับ อย่างที่บอกว่าเราเดินทางรอบ 18:00 น. เราก็ควรจะมาถึงสถานีรถไฟก่อนล่วงหน้าประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง เพราะว่าขบวนโบกี้ชั้นที่ 1 จะอยู่หน้าสุดซึ่งต้องเดินออกไปค่อนข้างไกลครับ

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20221220-1_0008_Layer 1.jpg?itok=i0ZmNWR7

  • เมื่อเรามาถึงสถานีรถไฟแล้วก่อนจะขึ้นขบวน ก็จะมีพนักงานในการตรวจตั๋วว่าเราจะต้องขึ้นขบวนนี้หรือไม่ ก็นำตัวที่เราพิมพ์ออกแล้วยื่นให้กับพนักงานได้เลยครับ

    https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20221220-1_0007_Layer 2.jpg?itok=8jHTk1xT

ที่ผมบอกว่าอยากจะให้มาถึงสถานีรถไฟก่อนล่วงหน้าเนื่องจากว่าเราจะได้มีเวลาในการเตรียมตัวไปหาซื้ออาหารนั่นเองครับ โดยปกติแล้วรถไฟไทยจะมีขบวนห้องอาหารอยู่ แต่เนื่องจากหากสถานการณ์โควิดยังมีอยู่ ขบวนอาหารก็ยังไม่สามารถเปิดให้บริการด้านเองครับ พนักงานก็จะแนะนำให้เราไปหาซื้ออาหารขนมน้ำดื่มมาตุนเก็บไว้ก่อน แต่เหมือนได้ข่าวว่าช่วงนี้ห้องอาหารเปิดแล้ว หากเพื่อนๆ ได้ไปลองแล้ว ก็อย่าลืมถ่ายรูปมาแบ่งปันกันได้นะครับ


https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20221220-1_0005_Layer 3.jpg?itok=rzPalSMN

เมื่อเราเตรียมของกินอาหารเรียบร้อยแล้วเราไปดูห้องโดยสารกันดีกว่าครับ อยู่ห้องโดยสารชั้นหนึ่งจะมีจำนวนแค่ 1 ขบวนเท่านั้น เพราะฉะนั้นจำนวนห้องก็จะไม่ได้เยอะมาก ห้องโดยสารของเรา จะเป็นห้องที่มีประตูปิด ทำให้มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างจะสูงครับ แต่ไม่ได้กันเสียงทะลุเล็ดลอดอะไรมากขนาดนั้น เพราะฉะนั้นแล้วก็ระมัดระวังการใช้เสียงด้วยนะครับ


ภายในห้องจะมีเก้าอี้อยู่ 2 ตัว สามารถโดยสารได้ห้องละ 2 ท่านนะครับ โดยจะมีปลั๊กไฟให้ใช้งานได้ รวมไปถึงมีอ่างล้างหน้าในตัวครับ มีจอ LCD แสดงผล ว่าตอนนี้เราเดินทางถึงจังหวัดไหนแล้วและมีการแสดงผลข้อมูลต่างๆ

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20221220-1_0009.png?itok=ILBdTHYf

แต่มีเคล็ดลับครับหากต้องการเดินทางหลายคนอย่างน้อยประมาณ 3-4 ท่าน แนะนำให้จองห้องติดกัน เพราะว่าเราจะสามารถเปิดตัวข้างห้องตรงกลางออกได้ครับ และเราก็จะได้ห้องที่กว้างมากกว่าเดิม ซึ่งผมก็ใช้วิธีนี้ในการจองตอนเดินทางกลับกรุงเทพฯ นั่นเองครับ

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20221220-1_0001_Layer 8.jpg?itok=GXet2h2W

ระหว่างนี้ หากใครต้องการจะอาบน้ำนะครับก็มีห้องน้ำให้บริการอยู่ด้านหน้าโบกี้สุดเลย โดยที่จะมีห้องอาบน้ำให้เราได้ใช้บริการ ซึ่งบอกเลยครับว่ามีน้ำอุ่นให้ใช้งานด้วย เราก็สามารถที่จะสลับกันเข้าไปใช้งานได้นะครับ โดยที่เมื่อมีการล็อกห้องน้ำ มันก็จะไปแสดงผลที่หน้าจอของแต่ละห้องเลยว่าโอเคตอนนี้มีคนใช้ห้องน้ำอยู่ สุดยอดมากเลย จะได้ไม่ต้องไปรอหน้าห้องน้ำครับ โดยแต่ละห้องก็จะมีผ้าเช็ดตัวให้บริการอยู่แล้วครับ

ตอนนี้เราก็เตรียมตัวเดินทางออกจากสถานีเชียงใหม่ได้แล้ว เราก็นั่งดูวิวข้างทางไปเรื่อยๆนะครับ นั่งกินอาหารกินขนมพูดคุยกัน เวลาประมาณ 19:00 น. พนักงานก็จะมาทำการติดตั้งที่นอนให้กับเรานะครับเขาก็จะมีผ้าห่มแต่ว่าหากใครเป็นคนขี้หนาว อยากจะแนะนำให้เอาผ้าห่มไปเองนะครับเพราะแอร์เย็นมาก

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20221220-1_0004_Layer 4.jpg?itok=q05RwkH6

และเราก็ได้เวลานอนครับ ตื่นอีกทีนึงก็เช้าแล้ว ใกล้ถึงสถานีกรุงเทพเข้าไปทุกที เราก็เตรียมตัวที่จะลงสถานีปลายทางได้แล้วครับ พนักงานก็จะมาถามเรานะครับว่าเราจะลงสถานีไหน หากไม่ต้องการลงสถานีระหว่างทางก็ไม่จำเป็นต้องบอกนะครับแล้วก็รอไปจนถึงปลายทางได้เลย หากต้องการลงระหว่างทางก็สามารถไปรอได้ที่ประตูทางลงได้เลยครับ

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20221220-1_0002_Layer 7.jpg?itok=SrtUybrh

และเมื่อถึงตอนนี้กรุงเทพฯ ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการเดินทางด้วยรถไฟไทยในครั้งนี้ของเราเรียบร้อยแล้วนั่นเองครับ บอกเลยคำว่าเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างประทับใจและนี่ก็เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ผมเดินทางด้วยรถไฟไทยชั้น 1 นะครับ บอกเลยคำว่าเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างประทับใจ ผมเองรู้สึกว่าเป็นการเดินทางที่น่าจดจำมากๆ ทั้งความสะดวกสบาย ความสนุกที่เราได้เห็นวิวตามเส้นทางการเดินทางต่างๆ แถมมีพี่ๆ พนักงานอำนวยความสะดวกอีกด้วยครับ และที่น่าประทับใจคือ มีน้ำอุ่นให้ใช้อาบน้ำนั่นแหละครับ หาจากที่อื่นไม่ได้นะ แนะนำเลยครับสักครั้งหนึ่งต้องลองไปใช้บริการให้ได้ และเพิ่มประสบการณ์อย่างไรกับการใช้งานรถไฟไทยบ้างหรือไม่ก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่ช่อง comment นะครับ