รีวิวการกดซื้อบัตรคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK พร้อมเคล็ดลับให้ได้บัตรไปดูคอนฯ
เรียกได้ว่าหลายวันที่ผ่านมานี่ กลายเป็นเทรนด์ Twitter กันเลย กับเรื่องการกดบัตรคอนเสิร์ต BlackPink ที่มาจัด World Tour ที่ประเทศไทยในวันที่ 7-8 มกราคมนี้ ซึ่งเมื่อวันที่ 16-18 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเหล่าบลิ้งค์ก็ได้ตั้งตารอคอยกดบัตรกันอย่างเต็มที่ โดยที่บัตรก็สามารถขายหมดได้ภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เป็นการต่อสู้ที่ต้องแลกมาด้วยกับความพยายามอย่างยิ่งใหญ่ และในบทความของ TamKung วันนี้ เราจะมารีวิวการกดซื้อบัตรคอนเสิร์ต BlackPink พร้อมบอกเล่าประสบการณ์ต่างๆ เพื่อเป็นวิทยาทานกับการกดบัตรคอนเสิร์ตอื่นๆ ต่อไปครับ
BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK คือชื่อเต็มของคอนเสิร์ตในครั้งนี้ โดยมี Live Nation Tero เป็น Promoter หรือผู้จัดหลัก และมี True 5G และ True ID Creator เป็นสปอนเซอร์ให้กับการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยละครับ โดยมีเจ้าภาพ Thaiticketmajor เป็นผู้จำหน่ายตั๋วทั้ง 3 วันที่ผ่านมาครับ
โดยการกดซื้อบัตรก็มีหลายรอบ หลายแบบ ตั้งแต่แบบบัตร Membership สำหรับสมาชิก BLINK MEMBERSHIP ที่อยู่กับ Weverse นั่นเอง หรือจะเป็นรอบการซื้อของทาง Live Nation Tero ที่ต้องไปสมัครสมาชิกก่อนถึงจะเข้าคิวซื้อได้ และรอบบุคคลทั่วไปที่ทำการซื้อผ่าน Thaiticketmajor นั่นเอง โดยที่เราได้บัตรมาในการซื้อกับ Live Nation Tero โดยในการซื้อบัตรแต่ละรอบการจำหน่าย ก็จะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันไป
รอบสมาชิก Live Nation Tero เราจะต้องไปสมัครสมาชิกของ Live Nation กันก่อน และยืนยันบัญชีให้เรียบร้อยครับ แล้วเมื่อถึงวันที่เปิดให้ซื้อบัตร ก็จะต้องเข้าไปรอคิวที่หน้าเว็บไซต์ Live Nation Tero ก่อนที่ระบบจะพาไปต่อคิวซื้อที่ Thaiticketmajor อีกทีหนึ่งครับ
หลังจากนั้นเมื่อถึงเวลา 10.00 น. ก็จะเริ่มการเข้าหน้าซื้อบัตร ซึ่งจะเป็นการปล่อยทยอยเข้าไปกดซื้อ ตามคิวที่เข้ามาครับ ซึ่งหลายคนก็อาจจะใช้เวลานานหรือเร็วก็จะขึ้นอยู่ที่ระบบ ไม่มีใครรู้จริงๆ ว่ามันจะต้องทำยังไงให้เราเข้าไปเป็นคิวแรกๆ นะครับ
เมื่อเราต่อคิวจนถึงคิวของเรา เราจะสามารถกดเลือกวันการแสดงก่อน แล้วตามหาโซนที่เราต้องการ ซึ่งตอนนั้นผมได้เข้าไปซื้อตอน 10.35 น. ซึ่งถึงตอนนั้นบัตรที่เป็นที่นั่ง เต็ม!! ทุกโซนเลยครับ แม้แต่บัตรหลุม หรือโซนยืนก็เต็ม ไม่มีที่ว่างเลยแม้แต่น้อย ชาวทวิตเตอร์ก็ต่างร้องไห้กันแล้ว รวมถึงผมเองก็ด้วยครับ
ซึ่งเราจะสามารถอยู่ในหน้านั้นนานมากๆ อยู่ได้นานจนกว่าเราจะพอใจกดออกไปครับ ... โดยที่ผมก็ได้ทำการรีโหลดหน้าเว็บ เพื่อตามหาตำแหน่งที่ว่าง จนกระทั้งประมาณ 11.00 น. ผมก็สามารถกดบัตรมาได้
ในส่วนของการชำระเงินนั้น เราสามารถเลือกชำระผ่าน 3 ช่องทาง ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดจะเป็นการชำระผ่าน K-Plus App หรือทาง True Wallet ก็ทำได้ครับ เมื่อทำการชำระเรียบร้อย เราก็จะได้บัตรเอาไปรอรับวันงานเลย
พิเศษสำหรับลูกค้าที่ใช้ซิมทรูมูฟเอชทั้งแบบรายเดือนและเติมเงิน เพียงสมัคร แพ็กเกจ เสริมเน็ต TRUEBLINK 100บาท (ได้เต็มสปีดไม่อั้น 24 ชม.)
แต่...ใครที่ยังไม่มีบัตรก็ไม่ต้องพึ่งท้อใจนะครับ เพราะมีข่าวดีจะมาประชาสัมพันธ์สำหรับคนที่อยากได้บัตร VIP ในคอนเสิร์ต!!!
พิเศษสำหรับลูกค้าที่ใช้ซิมทรูมูฟเอชทั้งแบบรายเดือนและเติมเงิน เพียงสมัครแพ็กเกจเสริมเน็ต TRUEBLINK 100บาท (ได้เต็มสปีดไม่อั้น 24 ชม.)
และมียอดซื้อแพ็กเกจสะสมสูงสุดในแต่ละสัปดาห์
รับฟรี! บัตรคอนเสิร์ต พร้อมสิทธิ์ชมการซ้อมรอบ Sound Check และลุ้นรับซีดีและโปสเตอร์พร้อมลายเซ็น
- สมัครง่าย ผ่านเว็บ tmvh.co/c282 หรือ TrueiService คลิก https://bit.ly/TrueiSVxBLINK
- สำหรับลูกค้าแบบเติมเงิน เพียงกดสมัครผ่าน 9005000#แล้วโทรออก
- รายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://bit.ly/3g9PC9X
ยิ่งสมัครมาก ยิ่งมีสิทธิ์มาก
(รูปภาพ จาก TrueMove H)
จริงๆ ในบทความของเราก็อาจจะจบลงตรงนี้ แต่ผมก็ขอบอกเล่าประสบการณ์เพิ่มเติมกันสักหน่อย เผื่อสำหรับใครที่อาจจะต้องไปกดบัตรคอนเสิร์ตในอนาคตหรือใครก็ตามที่อยากจะไปหาซื้อบัตรต่อจากโลกออนไลน์นะครับ
-
เทคนิคกดบัตรคอนเสิร์ตยังไงให้ทัน
จริงๆ การกดบัตรจำเป็นจำต้องใช้ความเร็ว เพราะจำนวนที่นั่งมีจำกัด ใครเร็วใครได้จริงๆ ครับ แต่อยากจะแนะนำว่า หากต้องการกดบัตรผ่านอออนไลน์ สิ่งที่ควรเตรียมตัวคือ
- เลือกโซนที่ต้องการนั่ง และโซนสำรองที่ต้องการครับ เพื่อการเลือกที่รวดเร็ว
- เตรียมบัญชีที่ต้องใช้ในการสมัครและการซื้อบัตร ไม่ว่าจะเป็นบัญชีของเว็บไซต์ผู้จัดงาน หรือทาง Thaiticketmajor เพราะอาจจะเสียเวลาไปตอนที่ต้องสมัครที่ค่อนข้างมาก มันจะเสียเวลาตรงนี้แหละ
- ในช่วงเวลาการกดบัตร ควรปิดการใช้งานอินเทอร์เน็ตในส่วนอื่นๆ เปิดเฉพาะเว็บไซต์ที่ต้องใช้การกดบัตรเท่านั้น
- หาอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อช่วยกันกด เผื่อเครื่องไหนที่ได้เร็วกว่า จะได้ไปที่เครื่องนั่นครับ เพราะอย่างของผมได้บัตรในเครื่องรองที่ผมใช้งานอยู่ และเตรียมบัญชีสมาชิกให้ครบนะครับ พยายามอย่าใช้บัญชีเดียว มันอาจจะเด้งหลุดได้ครับ
- อย่าพึ่งทอดใจหากเข้าไปหน้าเลือกโซนแล้วไม่มีตั๋วเหลือ เพราะอาจจะมีบัตรหลุดจากการชำระเงินไม่สำเร็จมาให้เราได้ซื้อแทนครับ อย่างที่ผมรอเกือบ 1 ชั่วโมงในที่สุดก็ได้บัตรมาครับ
-
ข้อควรระวัง
เนื่องจากการกดบัตรหรือการซื้อตั๋วคอนเสิร์ตมันอาจจะล่อตาล่อใจจากผู้ไม่หวังดีหลากหลายช่องทาง ผมเลยอยากจะเตือนรวมไปถึงเขียนสรุปข้อควรระวังในเรื่องต่างๆ
- ในทุกวันนี้ได้มีผู้คนมาหากดบัตรแทน หรือการจ้างไปกดบัตรโดยสามารถหาได้ผ่านทาง Twitter ซึ่งเราไม่อาจรู้ได้ว่าเขามีตัวตนจริงๆ หรือไม่ เพราะฉะนั้นหากต้องการใช้บริการรับจ้างกดบัตร ก็ขอให้เช็คเครดิตกันให้ดี ดูว่ามีใครใช้บริการมาแล้วบ้าง และคนที่มารีวิวมีตัวตนจริงๆ ไหม ในบางครั้งเหล่าคนโกงเหล่านี้ก็ไปสร้างบัญชีเปล่าๆ มาเพื่อรีวิวให้ตัวเองก็ได้ครับ
- ศึกษารายละเอียดการจัดงาน การซื้อบัตร ว่ามีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ เช่นอย่างคอนเสิร์ตครั้งนี้มีเงื่อนไขว่า ชื่อบนบัตรที่เรากรอกไปจะต้องเป็นคนที่ไปงานเท่านั้น และจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน นั่นหมายความว่า หากใครที่ไปหาซื้อบัตรที่เอามา Re-Sale หรือขายต่อก็อาจจะต้องดูกันอีกทีว่า สามารถทำได้หรือไม่ เรื่องนี้สำคัญมากๆ ครับ
- หากต้องการซื้อบัตรต่อจากใครหรือจ้างใครกดบัตรก็ต้องดูรายชื่อจาก https://www.blacklistseller.com/ กันบ้าง เผื่อจะเป็นบัญชีของคนโกงนะครับ เพราะการไปจ้างคนกดบัตรมันจำเป็นต้องโอนเงินให้เขาก่อน ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกโกงได้มากๆ อยากให้บลิ๊งค์ตั้งสติกันเยอะๆ นะครับ
ทั้งหมดคือเรื่องราวที่ผมเอามาฝาก กับการกดบัตรคอนเสิร์ตของ BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] และในอนาคตเราจะมารีวิวเรื่องอื่นๆ กันอีก อย่างไรก็ตามเพื่อนได้บัตรไปดูงานคอนเสิร์ตแล้วหรือยัง ใครได้แล้วก็อย่าลืมเอามาบอกเล่ากันนะครับ แล้วเจอกันวันที่ 7-8 มกราคม 2566 นี้ครับ