รีวิว 5 มัดรวม หูฟังเกมมิ่ง ราคาถูกใจ รุ่นไหนใช้ดี สะดวกต้องตามไปซื้อมาใช้แล้ว!

เชื่อได้ว่าใครหลายคนที่อยู่ ณ ที่นี้อาจจะมีความซีเรียสกับเรื่องของคุณภาพเสียงที่เราต้องการจะได้ยิน ผ่านการเล่นเกม เพราะเพียงแค่เสี้ยววินาที ก็อาจจะทำให้เราเป็นแต้มต่อสำหรับการเล่นเกม หรือความพ่ายแพ้ก็เป็นได้นะครับ เพราะฉะนั้นแล้ว การจะซื้อหูฟังสักตัวหนึ่ง จำเป็นต้องดูอะไรที่มากกว่าแค่ราคา เพราะฉะนั้นในบทความของ TamKung วันนี้ เราจะมารีวิว 5 มัดรวมหูฟังเกมมิ่ง ราคาถูกใจ รุ่นไหนใช้ดี สะดวกต้องตามไปซื้อมาใช้แล้ว

1. Fantech HG23 Headphone

มาเริ่มต้นกันด้วยในราคาที่ไม่แพงมาก ไม่เกินหลักพันบาท กับ Fantech HG23 Headphone  ซึ่งเป็นหูฟังในรูปแบบ Over-Ear ในราคาประหยัด การออกแบบแนวเกมเมอร์แน่นอน มาพร้อมกับฟีเจอร์ในการเล่นเกมที่ค่อนข้างจัดเต็ม น้ำหนักเบา ยืดหยุ่น ทำให้สามารถสวมใส่ได้นาน สบายหัวครับ

และแน่นอนว่า หูฟังเกมเมอร์ก็จะต้องมาพร้อมกับไฟ LED แบบ RGB มา ให้ดูเท่ ให้ดูเป็นเกมเมอร์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไมโครโฟน สามารถใช้ในการเล่นเกมได้ ตัวไมโครโฟนมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนให้อีกด้วย นอกจากนี้การเชื่อมต่อก็ใช้เป็นแบบ USB-A ทำให้สามารถเสียบคอมพิวเตอร์ก็พร้อมใช้งานได้ทันที

• ราคา: 890 บาท
• การเชื่อมต่อ: USB-A

ข้อดี

• มีฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวนมาพร้อมกับตัวไมค์เลย
• ใช้ระบบเสียงแบบ 7.1 ให้เสียงที่คมชัด

ข้อเสีย

• ใช้งานได้เฉพาะอุปกรณ์ที่รองรับ USB-A ส่วนมากจะเป็นคอมพิวเตอร์

2. Razer Kraken X

หากเป็นยี่ห้อ Razer ก็เรียกได้ว่าขึ้นชื่อสำหรับเกมเมอร์อยู่แล้ว แต่ Razer Kraken X ก็ไม่ได้เป็นหูฟังที่มีราคาแพงมากเท่ากับรุ่นอื่นๆ แต่ให้รูปทรงที่สวยหรูมากๆ แถมยังสวมใส่ได้สบายมากๆ มีการใช้ฟองน้ำ Memory Foam ทำให้การระบายอากาศรวมไปถึงความนุ่มที่เพิ่มขึ้น ใส่ได้ยาวๆ น้ำหนักก็เบาเพียง 250 กรัมเท่านั้น

Razer Kraken X ยังรองรับระบบเสียงแบบ 7.1 Surround ที่ความถี่ 12 – 28 kHz และฟีเจอร์อย่าง Crystal Clear  ในตัวของไมโครโฟน ทำให้การสื่อสารนั้นทำได้ดี ชัดเจนมากขึ้นไปอีก สามารถรอบรับการควบคุมได้อีกด้วย ปรับแต่งได้ตามสบายเลย

• ราคา: 1,290 บาท
• การเชื่อมต่อ: AUX 3.5

ข้อดี

• รองรับเสียง 7.1 Surround
• ออกแบบมาเบาสบาย
• ใช้งานการเชื่อมต่อด้วย AUX 3.5 ใช้งานได้ทั้งบนสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์

ข้อเสีย

• เสียง Surround ต้องใช้ใน Windows 10 เท่านั้น

3. SteelSeries Arctis 1

ใครที่เคยใช้งาน Arctis 7 มาแล้ว ก็อาจจะรู้สึกว่ามันแพงเกินไป หรืออาจจะใหญ่เกินความต้องการ ทาง SteelSeries ก็ออกตัวใหม่ออกมากอย่าง Arctis 1 โดยเป็นการยกเอาความสามารถของArctis 7 มาใส่ในหูฟังที่ใช้วัสดุที่ถูกกว่า Premium น้อยกว่าสักหน่อยละครับ โดยที่ความพิเศษคือ การเชื่อมต่อได้หลาย Platform ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับ PS5 หรือ Xbox แต่ก็ต้องเชื่อมต่อผ่าน AUX 3.5 นะครับ

โดยที่ Arctis 1 มาพร้อมกับระบบเสียงอย่าง 7.1 Surround สามารถให้เสียงอันทรงพลัง สมชื่อกับแบรนด์อย่าง SteelSeries อย่างแน่นอน เขาว่ากันว่า เมื่อใช้ Arctis 1 แม้แต่เสียงใบไม้ตกกระทบพื้นเราก็ได้ยินครับ สมชื่อกับการเป็นยอดหูฟังยอดนิยมจริงๆ

• ราคา: 1,990 บาท
• การเชื่อมต่อ: AUX 3.5 (+Y-Splitter)

ข้อดี

• คุณภาพเสียงดี สมกับหูฟังยอดนิยม
• รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย

ข้อเสีย

• ฟีเจอร์ในรุ่นนี้ไม่ค่อยมีหลากหลายเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะตามราคา

4. Logitech G431

มาต่อกันที่เจ้า Logitech โดยมีหูฟังรุ่น G431 เรียกได้ว่ามีฟีเจอร์เสียงแบบ Surround รอบทิศทาง อย่างระบบ DTS Headphone X 2.0 ซึ่งจะยิ่งทำให้เราสามารถเสพบรรยากาศต่างๆ ได้สมจริงมากๆ หรือจะเปลี่ยนไปเป็นโหมดสำหรับการเล่นเกม ก็จะทำให้ฟังเสียงได้รอบตัว ศัตรูมาทางไหนก็ได้ยินชัดทุกฝีเท้าเลย

การออกแบบก็ค่อนข้างดูเรียบหรู จริงๆ สามารถใช้งานได้ในหลายสถานการณ์ ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่การเล่นเกมครับ จะดูหนัง ฟังเพลงก็ทำได้ เพราะความสามารถของตัวมันเอง ในการขับเบสออกมาก็ค่อนข้างนุ่ม มีความพอดีทั้งเสียงต่ำ เสียงสูง เรียกได้ว่าคุ้มค่าในการซื้อมาใช้งาน

• ราคา: 1,690 บาท
• การเชื่อมต่อ: USB Type-A

ข้อดี

• ฟีเจอร์เสียงรอบทิศทาง
• มี DTS ใช้ดูหนังสนุก สมจริงขึ้น
• ใช้งานได้ทั้งเล่นเกม และการใช้งานทั่วไป

ข้อเสีย

• อาจจะมีน้ำหนักเยอะไปหน่อย สำหรับหูฟัง

5. Nubwo X85 Gaming Headset

Nubwo เป็นยี่ห้อที่ได้ขึ้นชื่อว่า อุปกรณ์ราคาจับต้องได้ ราคาถูกมากๆ แต่คุณภาพก็ไม่ได้แย่เลยนะครับ อย่าง Nubwo X85 Gaming Headset ก็เป็นหูฟังเกมมิ่งราคาประหยัด โดยความสามารถที่ทำได้ คือการขับเสียงให้เหมือนกับระบบเสียง 7.1 แต่มันจะเป็นการจำลองเสียงนะครับ นอกจากนี้ยังมีไมโครโฟนแถมมาให้ โดยเป็นตัวที่รับเสียงรอบทิศทางแบบ Omni - Directional ซึ่งจะให้เสียงพูดมีความคมชัดนั่นเอง

ตัวฟองน้ำเป็น Earmuffs ที่มีความนุ่ม แถมด้านข้างติดตั้งมาพร้อมกับไฟ LED แบบ RGB ซึ่งทำให้มีความเป็นเกมเมอร์มากๆ โดยมีโปรแกรมเอาไว้สำหรับการตั้งค่าให้มาอีกด้วย ให้เราเลือกได้ว่าจะให้ไฟตามเสียงของเราก็ทำได้ โดยการเชื่อมต่อเป็นแบบ USB-A สามารถเสียบแล้วใช้งานได้เลย

• ราคา: 890 บาท
• การเชื่อมต่อ: USB Type-A

ข้อดี

• มีระบบเสียง 7.1 (แต่เป็นแบบ Virtual Surround)
• ไมค์รับเสียงรอบทิศทางแบบ Omni - Directional
• เชื่อมต่อง่ายๆด้วย USB-A สามารถเสียบแล้วใช้งานได้เลย

ข้อเสีย

• เนื่องจากการเชื่อมต่อเป็นแบบ USB-A อาจจะต้องหาอุปกรณ์ที่รองรับในการใช้งาน