วิเคระห์เหตุผล ทำไมไอแพดถึงขึ้นราคา? ปัญหาที่เราอาจจะไม่เคยรู้
เพื่อนๆ อาจจะได้เห็นรายละเอียดของ iPad ตัวใหม่ที่ทาง Apple ได้เปิดตัวแบบเงียบๆ เมื่อคืนวันก่อน โดยไม่ได้แจ้งข่าวอะไรไว้เลยนะครับ แต่เมื่อได้เปิดตัวสินค้าออกมาแล้ว หลายคนก็ต้องต่างตกใจถึงราคาที่เปิดตัว รวมถึงคุณสมบัติต่างๆ ที่ได้ระบุไว้ ทำเอาเหล่าแฟนคลับรวมถึงผมก็งงไปตามๆ กัน ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ แต่ในบทความของ TamKung วันนี้ เราจะมาเปิดเหตุผลว่าทำไมไอแพดถึงขึ้นราคา? แล้วมันจะคุ้มค่าไหม เรามาดูกันครับ
เรามาเริ่มดูราคาของทั้ง iPad Gen 10 กับ iPad Pro ตัวใหม่กันก่อน
iPad Gen 10 มาพร้อมกับชิป A14 Bionic ที่เร็วกว่ารุ่นเดิมมากกว่า โดยจะทำให้ CPU ที่ทำงานได้มากขึ้น 20% และกราฟิกที่ปรับปรุงดีขึ้น 10% ครับ รวมไปถึงหน้าจอขนาด 10.9 นิ้ว รองรับ 5G แถมมีสีให้เลือกอีก 4 สี จริงๆ ถ้าให้พูดกันตามตรง iPad ตัวใหม่นี้ก็มีความแตกต่างค่อนข้างมาก โดยราคาที่เปิดตัวของ iPad Gen 10 จะเริ่มต้นที่ 17,900 บาท จากเดิมรุ่นก่อน (iPad Gen 9) เปิดตัวมาในราคา 11,400 บาทครับ
ในส่วนของ iPad Pro อันนี้ก็ต้องยอมรับว่า มีรายละเอียดที่แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ ไม่มากสักเท่าไหร่ โดยจะเป็นเรื่องของการใช้ชิปประมวลผล จาก M1 ก็หันมาใช้ชิปประมวลผล M2 แทน หรือจะเป็นเรื่องของการรับรองการใช้งาน WiFi 6E การใช้งานจอแบบ Liquid Retina XDR กล้องมุมกว้างขึ้น โดยราคาจะเริ่มต้นที่ราคา 32,900 บาท (รุ่น 11 นิ้ว) หรือเริ่มต้นที่ราคา 44,900 (รุ่น 12.9 นิ้ว) จากเดิมจะเริ่มตอนที่ราคา 27,900 บาท (รุ่น 11 นิ้ว) หรือเริ่มต้นที่ราคา 32,900 บาท (รุ่น 12.9 นิ้ว) ครับ
จะเห็นได้ว่า มีการปรับราคาในตอนเปิดตัวที่สูงขึ้นมา โดยที่มันไม่ได้กระทบในส่วนของราคาสินค้าตัวใหม่ แต่ราคาที่ถูกปรับขึ้นนั้นไปกระทบต่อสินค้าตัวอื่นๆ แม้ว่ามันจะออกมานานแล้ว โดยมีผลทันทีที่ประกาศครับ
- iPad Gen 9 จากเดิมราคา 11,400 บาท ราคาใหม่ 12,900 บาท
- iPad Gen 10 จากเดิมราคา 11,400 บาท ราคาใหม่ 17,900 บาท
- iPad Air จากเดิมราคา 20,900 บาท ราคาใหม่ 23,900 บาท
- iPad mini จากเดิมราคา 17,900 บาท ราคาใหม่ 19,900 บาท
- iPad Proจากเดิมราคา 27,900 บาท ราคาใหม่ 32,900 บาท
ทีนี้เราก็มาถึงช่วงที่ต้องมานั่งดูกันแล้วว่า มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมราคาสินค้าของ Apple ถึงได้ขยับราคาเพิ่มขึ้นกัน
จากการที่ผมได้ทำการอ่านทั้งข่าวสารต่างๆ จากทั้งในไทยเองหรือต่างประเทศ ก็จะมีการพูดถึงเหตุผลที่หลากหลายอย่างเป็นเหตุเป็นผลนะครับ โดยเราจะสามารถเข้าใจได้เป็นประเด็นต่างๆ เช่น เรื่องของต้นทุนวัสดุและแรงงานในการผลิตนั้นมีราคาสูงขึ้น หรือจะเป็นเรื่องการขาดแคลนชิปในการประกอบตัวเครื่อง หรือจะเป็นเรื่องของเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อทั้งโลกครับ
หากจะให้พูดถึงเรื่องที่เบาที่สุดก่อน ก็ต้องมาในเรื่องของค่าแรง รวมไปถึงราคาของวัสดุในการผลิตนั้นมีราคาที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ หรือคนธรรมดาอย่างเราๆ เรายังมองว่าของรอบตัวของเราก็มีราคาที่สูงมากยิ่งขึ้นแทบจะทุกอย่างเลย ก็ไม่น่าแปลกที่วัสดุต่างๆ ที่นำมาประกอบในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะต้องใช้ราคาการผลิตที่สูงขึ้น แถมเรื่องของแรงงานก็เช่นกัน มันจะต้องจอบสนองต่อความต้องการและเวลาที่พนักงานประกอบเครื่องต้องใช้ หรือจะเป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของโรงงานการผลิต ที่จากเดิม Apple จะใช้ประเทศจีนเป็นฐานการผลิต แต่ในตอนนี้ก็เริ่มมีข่าวถึงการปลายฐานการผลิตไปที่ประเทศอื่นแทน
หรือจะเป็นเรื่องของการขาดแคลนชิปประกอบตัวเครื่อง ซึ่งมันไม่ได้กระทบเพียงแค่ทาง Apple เท่านั้น แต่ปัญหานี้มันไปกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก นั่นก็เพราะประเทศที่สามารถทำการผลิตชิปได้มากที่สุดในโลกก็ตั้งอยู่ที่ประเทศจีน ซึ่งก็ได้มีปัญหากับทางสหรัฐฯ ทำให้การผลิตต้องล่าช้า ของที่มีก็ต้องแย่งกัน อารมณ์เหมือนกับตอนที่ Bitcoin เป็นกระแสทำให้การ์ดจอคอมพิวเตอร์นั้นขาดแคลนนั่นแหละครับ ที่ไหนมีราคาก็จะแพงมากๆ ก็อาจจะเป็นตัวช่วยในการตอบคำถามนี้ได้หรืออีกหนึ่งเหตุผลที่เราสามารถเข้าใจกันได้ดีที่สุด นั่นคือเรื่องของเงินเฟ้อนั่นเอง ซึ่งปัญหาเงินเฟ้อเป็นเรื่องที่เราได้เรียนมาอย่างแน่นอนในชั้นมัธยม ว่ามันเป็นอย่างไร และนี่คือสิ่งที่กำลังเป็นครับ ปัญหาเงินเฟ้อในช่วงนี้ถือว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นมากๆ และเป็นปัญหามากที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา เราจะพบว่าไม่มีประเทศไหนเลยที่ไม่เจอปัญหาเงินเฟ้อนี้
พูดง่ายๆ ให้เข้าใจนะครับ เงินเฟ้อก็คือภาวะเศรษฐกิจที่ระดับราคาสินค้าและบริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แปลง่าย ๆ อีกแบบก็คือของแพงขึ้น หากเราต้องการซื้อสินค้าอะไร ราคาก็อาจจะแพงขึ้นมากกว่าแต่ก่อนครับ โดยมันก็อาจจะเกิดขึ้นมาจากต้นทุนสินค้ามันแพงขึ้นนี่เอง และความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย มันก็สามารถย้อนกลับไปตอบคำถามของเราได้
และอีกเรื่องที่น่าสนใจมากๆ นั่นคือเรื่องของค่าเงินครับ เพราะว่าสินค้าของทาง Apple ก็มาจากเมืองนอก หากเราต้องการซื้อสินค้า เราก็ต้องทำการแลกเปลี่ยนเงินตรา และเปลี่ยนสกุลเงินไปเป็นของที่เขาต้องการ แล้วเราลองมาดูอัตราและเปลี่ยนเงินไทยไปเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ ดูกันครับ เราจะเห็นได้ว่าในตอนนี้ (วันที่ 20 ตุลาคม 2656) ตลาดบ้านเราเปิดที่ 38.07 บาท / เหรียญสหรัฐฯ นั่นก็เท่ากับว่า หากเราต้องการแลกเงินไทยให้เป็นเงินสหรัฐ 1 เหรียญ เราต้องใช้เงินทั้งหมด 38-39 บาทเลย ซึ่งแต่ก่อนเราจะชินค่าเงินที่ 35 บาท / เหรียญสหรัฐ นั่นแหละครับ
ทีว่ามาทั้งหมดก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำไมราคาของไอแพด รวมถึงสินค้าต่างๆ ต้องมีการปรับขึ้นราคากัน ซึ่งมันก็เป็นเพียงมุมมองของผมเอง ที่ได้ทั้งอ่านข่าว เก็บข้อมูลมาต่างๆ นะครับ
ซึ่งหากต้องการให้ผมแนะนำว่า แล้วเราควรจะซื้อ iPad Gen 10 หรือ iPad Pro 2022 เลยไหม ผมก็ต้องขอแนะนำตรงนี้ว่า หากไม่ได้มีความจำเป็นจริงๆ ก็อย่าพึ่งไปซื้อ iPad ในช่วงนี้ครับ หากเราไม่ได้มองถึงปัญหาเรื่องราคาที่สูงขึ้น แต่ด้วยเรื่องของสเปคหรือคุณสมบัติของตัวเครื่องก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากตัวเดิมมากเท่าไหร่ครับ แต่ข้อดีคือมันแรงขึ้น ก็ต้องอยู่ที่การใช้งานอีกทีละครับ ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาทำสรุปรีวิวของทั้ง iPad Gen 10 และ iPad Pro 2020 กันว่ามีความน่าใช้งานกันตรงไหนแบบละเอียดอีกทีนะครับ
แล้วเพื่อนๆ มีความคิดเห็นอย่างไรกับปัญหาราคาไอแพดที่เพิ่มสูงขึ้นก็สามารถมาพูดคุยกันได้นะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลประกอบบทความ apple | reuters | csfusion | idc | infoquest