https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1600w/public/2022-09/20220908-1.jpg?itok=S8AnFBK9

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้เรามาอัปเดตกับข่าววงการไอทีกันอีกครั้ง กับการเปิดตัวสินค้าใหม่ภายในงาน Apple Event งานของ Apple ที่เรียกได้ว่าหลายคนนั้นจับตารอคอย เพราะว่าเรียกเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีเลย ที่เหล่าแฟนๆ เหล่าสาวกจะได้มาเตรียมตัวดูการเปิดตัวสินค้าใหม่ โดยในปีนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ในบทความของ TamKung วันนี้เราจะมาอัปเดตกันดีกว่า iPhone 14 มีอะไรมาใหม่บ้าง


เรียกได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ทาง Apple จะมาจัดงาน Apple Event ในช่วงเดือนกันยายนแบบนี้ และหากใครที่เป็นแฟนคลับ หรือสาวกก็จะรู้อยู่แล้วว่า งานนี้ต้องมีการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้าในพวกของ iPhone ที่ออกมาเป็นรายปี และก็เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ มีการเปิดตัว iPhone 14 และสินค้าอื่นๆ วันนี้เรามาดูพร้อมกันดีกว่า ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220908-1_0004_Layer 1.jpg?itok=rcwFQAaM

iPhone 14

เรามาเริ่มต้นกันที่เครื่องน้องสุดกับ iPhone 14 โดยในครั้งนี้เราจะไม่ได้เห็น iPhone 14 mini แต่จะเหลือเพียง iPhone 14 และ iPhone 14 Plus กันเท่านั้น ซึ่งในส่วนของความเร็ว ความแรงก็ยังเรียกได้ว่าดีขึ้นกว่า iPhone 13 ครับ

  • ขนาดหน้าจอ iPhone 14 จะมีหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ซึ่งใช้จอภาพแบบ Super Retina XDR ในการแสดงผล ความละเอียดที่ 2532 x 1170 PX ครับ ส่วน iPhone 14 Plus จะมีหน้าจอที่ขนาด 6.7 นิ้ว หน้าจอแบบ Super Retina XDR และความละเอียดที่ 2778 x 1284 PX โดยทั้ง 2 รุ่นจะเป็นหน้าจอแบบ OLED ทั้งจอครับ

    https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220908-1_0003_Layer 2.jpg?itok=J8dL-PAI

  • ชิปประมวลผล อาจจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาก เพราะยังใช้เป็นชิป A15 Bionic เหมือนกับใน iPhone 13 แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมา คือการเพิ่ม Core ให้กับตัวชิปครับ โดยให้ CPU แบบ 6‑core GPU แบบ 5‑core และ Neural Engine แบบ 16‑core และมีการเพิ่มความเร็วให้ผ่านตัว Software ที่จะฉลาดในการจัดการงานต่างๆ ทำให้ประสิทธิภาพดี เร็วขึ้นครับ

  • กล้องก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่มีการแก้ไข โดยครั้งนี้ยังมีกล้องมาให้ทั้งหมด 2 ตัวเช่นเคย โดยเป็นกล้องขนาด 12 ล้านพิกเซล ขนาด 26 มม. แต่แก้ไขในเรื่องรูรับแสง ให้มีความสามารถในการเปิดรับแสดงได้กว้างขึ้น ซึ่งมีขนาด ƒ/1.5 และอีกตัวจะเป็นแบบกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/2.4

    https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220908-1_0001_Apple-iPhone-14-iPhone-14-Plus-back-camera-220907.jpg?itok=arnxq6n5

  • การถ่ายภาพเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่สนุกมากยิ่งขึ้น ยิ่งกล้องหน้า ก็มาพร้อมระบบ Auto Focus แล้ว ทำให้ภาพไม่เบลอแล้วครับ และยังสามารถทำงานในพื้นที่แสดงน้อยได้ดีมากยิ่งขึ้น

  • กันสั่นในกล้องก็เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานของการถ่ายวิดีโอ เพราะว่าในครั้งนี้ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ที่เรียกได้ว่า Action Mode ที่จะทำให้การถ่ายวิดีโอนั้นนิ่งสุดๆ เหมือนกับกล้อง Action Cam ที่ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง ภาพก็ออกมาเนียนกริบ นิ่งมากๆ

    https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220908-1_0002_Apple-iPhone-14-iPhone-14-Plus-Action-mode-220907.jpg?itok=wiuGqWfk

  • อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาทั้ง iPhone 14 Series คือโหมดของ Crash Detection หรือระบบตรวจจับการชน ที่ถูกติดตั้งมาหวังว่าจะไม่ได้ใช้ แต่หากเกิดอุบัติเหตุ รถชน รถคว่ำ ตัว iPhone ก็จะตรวจจับและโทรแจ้งเบอร์ฉุกเฉินให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีผู้คน ก็จะเป็นประโยชน์ตัวตัวผู้ใช้ที่อาจจะหมดสติก็เป็นได้ ทำให้ครั้งนี้ระบบขอความช่วยเหลือได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างเยอะมากๆ เลยครับ

    https://creators.trueid.net/s3/files/styles/cover_photo_1024w/public/inline-images/20220908-1_0000_Layer 4.jpg?itok=groC03WV

การเชื่อมต่อก็อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกเสียดาย เพราะว่าพอร์ตการเชื่อมต่อยังคงเป็น Lightning อยู่นะครับ สามารถใช้งานได้ราวๆ 20 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และรองรับการชาร์จ MagSafe สูงสุด 15 วัตต์

ในส่วนของราคาและสีเครื่อง ก็มีมาให้เราเลือกทั้งหมด 5 สี คือสีฟ้า สีม่วง สีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ และ Red (Product) ครับ โดยราคาในส่วนของ iPhone 14 เริ่มต้นที่ 32,900 บาท และ iPhone 14 Plus เริ่มต้นที่ 37,900 บาทครับ


ส่วนตัวมองว่า iPhone 14 และ iPhone 14 Plus เนี่ย ก็เป็นรุ่นใหม่ที่ออกมา และหลายคนอาจจะสงสัยว่าเราควรจะซื้อไหม ผมก็อยากจะแนะนำว่า หากใครที่มีงบถึงก็ควรแก่การซื้อมาใช้งานครับ แต่หากใครที่งบไม่ถึงจริงๆ iPhone 13 ก็อาจจะเป็นคำตอบที่ดี เพราะว่าในรุ่นใหม่นี้ก็มีการพัฒนา เพิ่มเติมไปนิดหน่อย ไม่ได้เป็นการอัพเกรดที่เยอะแยะขนาดนั้น เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการถ่ายภาพ วิดีโอที่มีความผจญภัยเป็นหลัก ไม่ค่อยเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปครับทางที่ดีหากเป็นไปได้ ก็น่าจะลองไปมองตัวก่อนหน้านี้นะครับ