10 เหตุผลควรซื้อ iPhone 14 ทำไมต้องซื้อ น่าซื้อเพราะอะไร?
หลังจากที่เราได้เขียนบทความไปแล้ว ถึงการแนะนำให้รู้จักกับ iPhone 14 ทั้ง 4 ตัว ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นโปรสุด ใหญ่สุด แต่เพื่อนๆ ก็ทักข้อความมาถามอยู่หลายครั้งว่า เราควรจะซื้อ iPhone 14 ไหม หรือว่าซื้อรุ่นเก่ากว่านี้ดีไหม เพราะฉะนั้นวันนี้ในบทความของ TamKung เรามาบอก 10 เหตุผลควรซื้อ iPhone 14 ทำไมน่าซื้อ น่าใช้แบบไหน เรามาคุยกันครับ
1. เปลี่ยนรอยบากเป็น Dynamic Island
ฟีเจอร์อย่าง Dynamic Island เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายคนตัดสินใจที่อยากจะซื้อ iPhone 14 ในครั้งนี้ เพราะว่ามันเป็นหนึ่งในสิ่งที่เรียกได้ว่า Apple ทำมันออกมาได้ดีมากๆ เพราะว่ามันแสดงให้เราเห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ ที่เอาคุณสมบัติของพาเนล OLED มาประยุกต์ได้อย่างดีเลย ทำให้มันดูกลมกลืน เสมือนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของหน้าจอ ยืดก็ได้ หดก็ได้ หรือจะขยายเป็นวิดเจ็ตก็ได้อีก
2. ฟีเจอร์ใหม่ Always-on-Display
Always-On Display เป็นฟีเจอร์ที่หลายคนต่างรอคอย เพราะหลายคนก็ไม่ชอบให้หน้าจอนั้นดับเอง เพราะจะขาดการรับรู้ข้อมูลต่างๆ การแจ้งเตือนหลายๆ อย่าง แต่เมื่อมันมี Always-on-Display ก็ทำให้หลายคนอยากจะได้มาใช้งานกัน เพราะมันไม่ได้เป็นแค่การเปิดจอให้แสดงผลตลอดเวลา แต่มันเป็นการดึงเอาประโยชน์ของพาเนลประเภท OLED มาใช้ ซึ่งจะช่วยการลดความสว่างและอัตรา Refresh Rate ลงขณะอยู่ในหน้าจอล็อก ไปจนถึง 1 Hz ทำให้ยังสามารถแสดงผลการแจ้งเตือน และสถานะต่างๆ ได้โดยไม่กินแบตเตอรี่ด้วยละครับ
3. หน้าจอที่สว่างมากยิ่งขึ้นมากๆ
ความสามารถที่ Super Retina XDR ตัวใหม่ทำได้คือ การแสดงผลบนหน้าจอที่สว่างกว่าเดิมมาก ทำให้การใช้งานกลางแจ้งสามารถดันความสว่างเฉพาะจุดได้สูงสุด 2,000 นิต และในการแสดงผล HDR ก็ได้ประโยชน์ไปด้วยจากการดันความสว่างเฉพาะจุดได้สูงสุด 1,600 นิต นั่นหมายความว่าความสว่างที่เพิ่มขึ้น ก็จะหมายถึงการให้ภาพที่สมจริงกว่าเดิม รับชมคอนเทนต์ได้เต็มอรรถรสมากกว่าเดิมนั่นเอง
4. ได้ชิปประมวลผลตัวใหม่อย่าง A16 bionic
A16 Bionic ใน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max เป็นตัวชิปใหม่ล่าสุดจากทาง Apple ที่จะช่วยปลดล็อคประสบการณ์ Dynamic Island และฟีเจอร์ใหม่ๆ ทั้งหมดทำงานได้เร็ว แรง ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นขุมพลังเบื้องหลังฟีเจอร์ด้านการประมวลผลในทุกฟีเจอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการถ่ายภาพ และ CPU GPU ก็มาให้เราได้ใช้งานหลาย Core กันเลยทีเดียว
5. ฟีเจอร์ SOS Car Crash Detection และ Emergency satellite
iPhone 14 ทั้งหมดมาพร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยสุดล้ำ ที่จะสามารถให้เราความช่วยเหลือฉุกเฉินในเวลาที่สำคัญที่สุด จากอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบ Dual-core ใหม่ ที่ทำให้สามารถตรวจวัดแรง G ได้สูงสุดถึง 256 พร้อมด้วย Gyroscope ที่มีช่วงไดนามิกสูง ตรวจจับความผิดปกติได้ดียิ่งขึ้น ร่วมไปถึงระบบขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียม ที่สามารถเชื่อมต่อดาวเทียวได้ แม้ในพื้นที่ไร้สัญญาณ
6. กล้องดีมาก ปรับปรุงได้น่าใช้งานสุดๆ
กล้องหลักก็ดี กล้องหน้าหรือกล้อง TrueDepth ก็ดี ในส่วนของกล้องหลักขยับขึ้นมากับกล้องความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นการอัปเกรดให้มีความละเอียดเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าเลย โดยมีกล้องมาให้ทั้งหมด 3 ตัวกันเลย ทั้งกล้องหลัก Ultra-Wide และ Tele Photo ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และรองรับ Photonic Engine ซึ่งมันคือตัวช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการถ่ายภาพในสภาวะแสงปานกลางถึงน้อย เป็นการผสานการทำงานร่วมกันระหว่าง Hardware และ Software อีกด้วย
และในส่วนของกล้องหน้าให้มาที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แต่สิ่งที่ได้รับการปรับปรุงคือ เรื่องของรูรับแสงที่มีขนาด ƒ/1.9 ทำให้ตอนนี้สามารถถ่ายรูปด้วยกล้องหน้าในสภาวะที่แสงน้อยได้ดีขึ้นอย่างมาก อีกทั้งฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา คือ Auti Focus หรือออโต้โฟกัสด้วย Focus Pixels ที่ทำให้เราสามารถโฟกัสในหน้าได้หลายคนในเฟรมเดียวครับ
7. ถ่ายวิดีโอโหมด Action Mode
หากใครที่เป็นสายกีฬาและต้องการถ่ายวิดีโอ ก็อยากจะบอกว่า Action Mode จะยิ่งทำให้การถ่ายวิดีโอนั้นนิ่งมากยิ่งขึ้น โดยเป็นการทำงานระหว่างตัวกล้อง ตัวชิปและ Software ทำให้ภาพนิ่งมากๆ แม้จะไม่ได้ใช้งานอุปกรณ์กันสั่นเลยครับ ซึ่งผมเห็นแล้วบอกเลยว่าต้องซื้อแน่ๆ แถมสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความคมชัด 2.8K ที่ 60 fps ในโหมดของ Action Mode นี้ครับ
8. มีความแข็งแกร่ง และทนทาน
Ceramic Shield เป็นวัสดุที่เรียกได้ว่าแข็งแรงมาก โดยมีการนำมาใช้ผสมผสานกับตัวเครื่องทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแกร่งและทนทานมากๆ โดยทาง Apple เคลมว่ามันแข็งแรงมากกว่าเดิม 4 เท่าเลยละครับ และมีมาตราฐาน IP68 สามารถทนฝุ่นและ ทนน้ำ
อีกทั้งนอกจากการที่จะมีวัสดุที่แข็งแกร่งแล้ว Apple ยังให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวมากๆ ทำให้นอกจากตัวเครื่องจะแข็งแรงแล้ว ความปลอดภัยของตัวผู้ใช้ก็มีการป้องกันที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน
9. แบตอึดที่สุดเท่าที่เคยมีมา
โดยสามารถใช้งานตัวเครื่องได้นานสูงสุดสำหรับการเล่นวิดีโอ 23 ชั่วโมงใน iPhone 14 Pro และ 29 ชั่วโมงใน iPhone 14 Pro Max ครับ และชิป 5G RF ใน iPhone 14 ก็ถูกผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำทำให้มีขนาดเล็กมากและประหยัดพลังงานสุดๆ แถมรองรับการ Fast Charge โดยสามารถชาร์จได้สูงสุด 50% ในเวลาประมาณ 30 นาที รองรับ ชาร์จแบบไร้สายในแบบ MagSafe สูงสุด 15 วัตต์ด้วยครับ ครบ จบ ในเครื่องเดียวจริงๆ
10. มีโปรดีๆ จากทาง TrueMove H
ต้องขอบอกก่อนเลยว่า ข้อสุดท้ายอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเครื่อง iPhone 14 โดยตรง แต่เป็นเรื่องราวดีๆ ที่จะทำให้เราและท่านผู้อ่านสามารถเป็นเจ้าของ iPhone 14 ได้ง่ายๆ ผ่านโปรโมชั่นดีๆ จากทาง TrueMove H เครือข่ายที่ดีที่สุดนั่นเอง ซึ่งทาง TrueMove H ก็มีข้อเสนอและดีลที่ดีที่สุด เมื่อสั่งซื้อล่วงหน้า 9 ก.ย.65 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ TrueMove H นะครับ