กลายเป็นกระแสกันข้ามคืนกันเลย กับ #LetTheEarthBreath ที่เป็นการรณรงค์เพื่อให้คนเรานั้นหันมาสนใจ รักษาเรื่องของโลกเรามากยิ่งขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันนี้โลกของเราก็ได้เผชิญกับปัญหาภาวะโลกร้อนอยู่ รวมไปถึงเรื่องปัญหาต่างๆ วันนี้ในบทความของ TamKung จะมาพูดถึงเรื่องของวิธีการช่วยโลก ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อจะเป็นส่วนช่วยโลกของเราให้อยู่กับเราต่อไป

{tocify} $title={Table of Contents}

ลดการใช้น้ำ ใช้ไฟที่ไม่จำเป็น

หลายคนในที่นี้อาจจะได้เรียนรู้มาตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียน ว่าอยากจะให้ลดการใช้น้ำ ใช้ไฟที่ไม่จำเป็น อาจจะเป็นการปิดน้ำทุกครั้งที่ไม่ใช้ การปิดไฟเวลาออกไปข้างนอก แต่ผมต้องบอกตรงนี้ว่า แม้มันจะเป็นวิธีการลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นได้ แต่มันก็ไม่ได้ลดพลังงานมากขนาดนั้น แต่หากเราประหยัดน้ำ-ไฟแล้ว มันจะช่วยให้เราลดค่าใช้จ่ายรายเดือน ในการจ่ายค่าน้ำ-ไฟได้ อย่างน้อยก็ช่วยให้เราประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว

ขอเพิ่มเติมเรื่องของการเปิด-ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้ดีกว่าครับ เพราะหลายคนอาจจะมีความเชื่อว่า การปิดแอร์ไม่ต้องออกไปข้างนอก 10 นาที แล้วกลับมาค่อยเปิดใหม่นั้นเป็นการประหยัดพลังงานมากกว่า แต่ความเป็นจริงแล้วนั้น การทำแบบนั้นจะเป็นการกินพลังงานมากกว่าครับ เพราะว่าโดยปกติแล้ว แอร์จะทำงานหนักมาและกินไฟมากในช่วงของการเริ่มเปิดแอร์ โดยช่วงแรกมันจะต้องทำให้ห้องเรานั้นเย็นก่อน หลังจากการสะสมพลังงานความร้อน แม้เพียง 10 นาทีก็ทำให้ห้องนั้นร้อนมากแล้วครับ ทางที่ดี ก็อาจจะปิดแอร์เวลาจะออกจากบ้านไปทำธุระนานๆ จะเป็นผลดีที่สุด

อ้างอิง - quora

ปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างร่มเงาให้โลก

จริงๆ อีกหนึ่งเรื่องที่เราได้ถูกปลูกฝังมา คือการปลูกต้นไม้ครับ เพราะอย่างที่เราทราบกันดี ว่าการปลูกต้นไม้ จะช่วยคายออกซิเจน ในเวลากลางวัน ทำให้เราได้อากาศบริสุทธิ์ และจะช่วยดูดซับก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดภาวะเรือน แต่ในปัจจุบันหากให้เราต้องออกไปหาที่ปลูกต้นไม้ ก็อาจจะดูยากไป ตอนนี้ก็มีสิ่งที่น่าสนใจอย่างการบริจาค เพื่อช่วยให้การปลูกต้นไม้นั้นเกิดขึ้นจริง

หรือมีอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ นั้นคือ Ecosia ในการเป็น Search Engine เพราะเขาเป็นเว็บไซต์ในการค้นหาข้อมูลบน Internet ที่ไม่ต่างจาก Google ครับ แต่เขาเคลมว่า "ทุกการเสิร์จบน Ecosia คุณก็มีส่วนช่วยในการปลูกต้นไม้ให้โลก" โดยที่เขารับเงินค่าค้นหาจากการลงโฆษณา แล้วเปลี่ยนเงินเหล่านั้นเป็นการปลูกต้นไม้

โดยที่น่าสนใจคือทั้งทาง Google และ Apple ก็ได้เพิ่ม Ecosia Search eEngine เข้าไปเป็นตัวเลือกสำหรับการใช้งานบนอุปกรณ์ Apple และบน Google Chrome เป็น Search Engine ทางเลือกสำหรับการใช้เพื่อค้นหาข้อมูล

อ้างอิง - chrome | imore

กินอาหารให้หมด ไม่กินทิ้งกินขว้าง

โดยในขั้นตอนของการจัดการของเสีย รวมถึงอาหารที่ยังเหลืออยู่นั้นมีขั้นตอนหลายอย่างมากๆ ตั้งแต่กระบวนการในการจัดเก็บ การแปรสภาพของขยะเศษอาหาร โดยในปัจจุบันมันก็ต้องใช้พลังงานในการทำทั้งหมด ซึ่งนอกจากจะส่งผลเรื่องของการใช้พลังงานในการแปรรูปของเสียตรงนี้แล้ว มันอาจจะส่งผลต่อไปในเรื่องของเชื้อโรคที่ตามมา การปนเปื้อนลงไปในแม่น้ำเป็นการทำลายระบบนิเวศของน้ำ แล้วหากจะเอาน้ำเหล่านั้นมาใช้ ก็ต้องใช้พลังงานในการแปรรูป การปรับน้ำอีก หรือจะเป็นการสร้างมลภาวะทางอากาศด้วยการส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งจะเป็นการทำลายสุขภาพทางอ้อมของเราอีกเพราะฉะนั้น การที่เรากินข้าวให้หมดสามารถช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ลดการสะสมของเชื้อโรคตั้งแต่ถังขยะไปจนถึงบ่อพักขยะ รวมไปถึงช่วยลดปัญหาที่จะตามมาจากขั้นตอนอื่นๆ หลังจากนั้นอีกครับ

อ้างอิง chulazerowaste

ลดการเผาขยะ พลาสติก และหันกลับมาใช้ซ้ำ

อย่างที่เราทราบกันดี ว่าการเผาขยะหรือเผ่าอะไรก็ตามแต่นั้นสร้างให้เกิดปัญหาก๊าซเรือนกระจกครับ เพราะฉะนั้นหากเราไม่เผาก็จะเป็นอะไรที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั้นเอง แต่จะทำอย่างไรเพื่อการจัดการกับขยะหรือพวกพลาสติก ยาง ซึ่งเอาจริงๆ มันก็จำเป็นต้องกำจัดขยะเหล่านี้ด้วยหลายวิธี ซึ่งเอาจริงๆ มันก็ไปสร้างมลพิษในด้านอื่นๆ

แต่ในปัจจุบันเราก็ยังมีความหวัง เพราะว่าเทคโนโลยีมันก้าวไปข้างหน้าไกลมากๆ และมีการพัฒนาได้เร็วมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาวิธีการทำลายพลาสติกแบบใหม่ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือการใช้พลาสติกที่ย่อยสลายได้ ซึ่งเราก็ต้องพัฒนากันต่อไปครับ

วิธีที่ดีที่สุด คือการนำมันมาใช้ใหม่ หรือการ Re-use นั้นเองครับ แต่ปัญหาคือมันจะมีเรื่องพลาสติกบางอย่าง ที่มันไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ มันก็อาจจะต้องมีการรณรงค์ในการใช้ชีวิตของเราใหม่ ในเรื่องของบรรจุภัณฑ์ แทนจะใช้พลาสติกก็อาจจะเปลี่ยนเป็นกล่องอาหารที่สามารถล้างได้เป็นต้นครับ

อ้างอิง - thematter

ลบ Email ช่วยโลกร้อนได้?

หลายคนก็คงต้องได้ยินมาว่า การลบ Email นั้นจะสามารถช่วยลดโลกร้อน รวมไปถึงช่วยลดการใช้พลังงานได้ โดยในความเป็นจริงนั้นมันก็เป็นเรื่องจริงครับ เพราะการลบ Email ช่วยโลกร้อนได้ แต่มันก็เหมือนกับการปิดไฟเมื่อไม่ใช้นั้นแหละครับ มันลดได้แต่ไม่ได้มากขนาดนั้น

โดยทั่วไปแล้ว การเก็บข้อมูล Email ไว้บน Data Centre นั้นจะมีการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มาก โดยหากต้องการเก็บข้อมูล 1 GB จะต้องใช้ไฟฟ้า 32 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ทั้งในเรื่องของการเก็บข้อมูลและระบบทำความเย็นที่มีการออนไลน์ข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมงตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ ทำให้มีการใช้พลังงานที่สูงมากๆ ซึ่งหากเราลบ Email นั้นจะช่วยให้เป็นการประหยัดพื้นที่ รวมถึงลดการใช้พลังงานได้ แต่ก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้น มิหนำซ้ำ การที่เราเข้าไปลบข้อมูลบน Cloud ที่ไม่ได้เข้าถึงมานานนั้น อาจจะใช้พลังงานที่มากกว่าด้วยซ้ำ (หากใครที่อยากฟังข้อมูลเต็ม สามารถรับฟังได้ที่ช่องของ 9Arm ซึ่งผมก็ได้เอาข้อมูลการอ้างอิงมาจากช่องนี้ครับ)

แต่การที่เราลบภาพออกจาก Cloud สามารถช่วยลดโลกร้อนได้มากกว่า โดยที่หากเราลบภาพออกจาก Cloud คนละ 1 ภาพ มีค่าเท่ากับ การลบอีเมลจำนวน 50 ฉบับ ซึ่งยังเห็นภาพมากกว่าการลบ Email ที่ไม่ใช้อีกครับ เพราะฉะนั้นการที่เราลบอีเมลที่ไม่จำเป็นทิ้ง หรือลบภาพออกจาก Cloud คนละ 2-3 รูปก็เป็นการช่วยลดโลกร้อนไปบางส่วนแล้วนั้นเองละครับ

จริงๆ แล้วยังมีวิธีอีก 108 พันอย่างที่จะเป็นการช่วยลดโลกร้อน เพื่อเป็นการช่วยโลกของเรานะครับ ซึ่งก็มีทั้งวิธีที่ได้ผลจริงๆ หรือบางวิธีก็อาจจะเป็นการแก้ปัญหาเพียงปลายเหตุ อย่างไรก็ดี การที่เราได้รับรู้ รวมถึงการได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่น่าอยู่ของเราครับ แล้วเพื่อนๆ มีวิธีอะไรในการช่วยเพื่อรักษาให้โลกของเรานั้นน่าอยู่ ก็เอามาพูดคุยและแบ่งปันกันได้นะครับ