https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEikckNfZSbz8zn7joOLTDOQ9lT81z4FgW1m7VToz7CPPVkYao848qvGeiJf2k_1w4IchoSjFw7vVhB1linUFKYgJh0pYjci3PkczWHo8eX9n_KeH32gcYQe8vcWUuSujudNByLUxeN-9Lu3a1NuWhvXi9NEHLz37Ycbv92KYvyKF9HaBAUnkf5V5vkf/s16000/20220419-3.jpg

เมื่อหลายวันก่อนผมได้เห็นข่าวว่า "อวสานร้าน A&W เจ้าของสิทธิ์ในประเทศไทยเตรียมหยุดกิจการ เหตุโควิด-19 ทำขาดทุนต่อเนื่อง" เอาจริงๆ ผมเองก็พึ่งรู้ว่าเขามีร้านด้วยละครับ และเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ก็เลยเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของร้าน A&W ในประเทศไทยครับ แต่หากพูดถึง  A&W ก็ต้องคุ้นหูผลิตภัณฑ์อันมีชื่อเสียงอย่าง รูทเบียร์ ซิกเนเจอร์ ซึ่งหาทานที่อื่นไม่ได้ ต้องแวะเวียนมาทานที่ A&W เท่านั้น ทำให้มีผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่เป็นเหล่าแฟนคลับรูทเบียร์ของ A&W แต่หลายคนก็ไม่ค่อยชอบ เพราะมีรสชาติเหมือนยาหม่อง ในบทความของ TamKung วันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องของรูทเบียร์กันครับ

ก่อนอื่นต้องบอกให้ทุกคนทราบว่ารูทเบียร์ ที่มีคำว่าเบียร์ แต่ไม่มีเบียร์และแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมนะครับ เพราะฉะนั้นหากใครอยากลองชิมก็สามารถชิมได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องของแอลกอฮอล์ โดยมันเป็นเครื่องดื่มกลิ่นสมุนไพรที่มีส่วนผสมหลักมาจากรากไม้ นำมาต้มเป็นน้ำสมุนไพรรักษาทุกโรคในยุคล่าอาณานิคม

https://thethaiger.com/wp-content/uploads/2022/03/Facebook_AW-Thailand.jpg

รูทเบียร์เกิดจากการนำสมุนไพรจำพวกรากไม้ (Root) และเปลือกไม้มาหมัก ทำให้ได้ขึ้นชื่อว่า Root Beer โดย Root ในรูทเบียร์มาจากส่วนผสมหลักที่เป็นรากไม้นั่นเอง

ส่วนสาเหตุที่เครื่องดื่มชนิดนี้โดนกล่าวหาว่ารสชาติเหมือนยาหม่องก็เพราะว่ามีส่วนผสมของน้ำมันระกำ (Wintergreen Oil) หนึ่งในส่วนผสมในน้ำมันแก้ปวดเมื่อย ซึ่งรูทเบียร์ของแต่ละแบรนด์ก็มีส่วนผสมที่แตกต่างกันไปตามสูตร

https://nourishedkitchen.com/wp-content/uploads/2011/08/root-beer-flat-lay-with-herbs-featured-post.jpg

โดยหากเราจะย้อนไปถึงกว่าจะมาเป็นรูทเบียร์ในปัจจุบัน ก็ต้องย้อนกลับไปตอนที่ เภสัชกรชื่อ Charles Elmer Hires ได้ปรุงเครื่องดื่มชนิดนี้มาแจกให้ผู้คนในเทศกาลเฉลิมฉลองครบ 100 ปี ประเทศสหรัฐอเมริกา ในสมัยที่มีการห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ในสหรัฐฯ หลังจากนั้นก็ได้เปิดเป็นร้านรูทเบียร์ร้านแรกในปี 1919 ที่ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สำหรับประวัติในประเทศไทย A&W เปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ในปี 1983 ซึ่งนับว่าเป็นแบรนด์ Fastfood แรกที่เข้ามาขายในไทย

https://images.unsplash.com/photo-1614990353954-cc4643927a1e?ixlib=rb-1.2.1&q=85&fm=jpg&crop=entropy&cs=srgb

อีกหนึ่งในเอกลักษณ์ของรูทเบียร์คือ การดื่มในแก้วเย็นๆ หรือเอาใส่แก้วมัคที่หนา และมีที่จับใหญ่ๆ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องมีฟองนุ่มๆ ถึงจะได้ฟีลการกินรูทเบียร์ครับ โดยนอกจากจะให้ความรู้สึกดับกระหายแล้ว รูทเบียร์ยังเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยส่งเสริมรสชาติอาหารให้อร่อยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะรับประทานคู่กับเมนูของคาวหรือของหวานอีกด้วยละครับ

อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะเอามาเล่าให้ฟังคือ เจ้ารูทเบียร์นี้มันมาพร้อมกับช่วงวัฒนธรรมไดร์ฟ-อินครับ มันคือการที่เราไปจอดรถในที่จอด แล้วจะมีพนักงานสาวๆ มาบริการให้ถึงรถ ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมมาก ๆนั้นจึงเป็นจุดที่ทำให้รูทเบียร์เย็นๆ เป็นที่ต้องการของเหล่าคนขับรถนั้นเลยครับ

https://assets.brandinside.asia/uploads/2017/05/root-beer-05.jpg

โดยส่วนตัว ผมเองก็พอกินได้อยู่บ้าง เพราะมันไม่ต่างอะไรจากน้ำอัดลมเลยละครับ มีต้นกำเนิดมาจากสมุนไพรต่างๆ ที่มีส่วนช่วยในการผ่อนคลาย แต่ในปัจจุบันก็มีหลายบริษัทพยายามทำรูทเบียร์ออกมาเป็นของตัวเอง ยังไงก็ต้องลองไปชิม ละดูว่าจะเหมือนแบบต้นฉบับมากน้อยแค่ไหนนะครับ หากท่านผู้อ่านไปลองไปชิมยีห้อไหนมา ก็สามารถมาแบ่งปันความคิดเห็นกันได้นะครับ