รีวิว Fifine K658 ไมค์ไดนามิคเสียงดี มีไฟ RGB น่าใช้แค่ไหน เหมาะกับงานอะไร
หลังจากที่ผมได้เริ่มทำงานในด้านของ Podcast โดยเริ่มจากการใช้ไมโครโฟนราคา 7xx บาท ซึ่งมันถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของผมเอง แล้วเมื่อเวลาผ่านไป ผมเองก็หลงรักในงานด้าน Podcast มากยิ่งขึ้นและคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะได้ Upgrade อุปกรณ์ด้านงาน Podcast ของผม โดยบทความของ TamKung วันนี้ผมจะขอมารีวิวกับ ไดนามิกไมโครโฟนเสียงดีอย่าง FIFINE K658 ในราคาที่จับต้องได้กันครับ
{tocify} $title={Table of Contents}
เช่นเคยที่ว่า ขอฝากผลงาน Podcast ของ TamKung
ฟัง TamKung Podcast ได้ที่ Spotify Podcast | Apple Podcast | Google Podcast
เผื่อจะได้ลองไปฟังน้ำเสียงที่ไมโครโฟนตัวนี้ทำออกมาได้ครับ
ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่า ผมเองก็ไม่ได้มีความรู้ทางด้านของเสียงมาก ผมก็พอรู้ในบางเรื่องเท่านั้นนะครับ แต่ก่อนที่ผมจะเลือกซื้อไมโครโฟนก็ต้องศึกษาข้อมูล รวมถึงความต้องการใช้คุณภาพเสียงในงานของตัวเราเอง ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อครับ โดยส่วนใหญ่ผมเอามาอัดเสียงคนเดียว ผมจึงตัดสินใจเลือกซื้อแบบ ไดนามิกไมโครโฟน เพราะมันจะสามารถรับเสียงได้ค่อนข้างเป็นเฉพาะจุด และลดเสียงรบกวนจากรอบข้างได้ และผมเองก็ต้องการความสบายในการใช้งาน และไม่อยากต้องพ่วงอุปกรณ์อื่นๆ เช่น Sound Card หรือ Mixer ใหญ่ๆ เพื่อการใช้งาน ผมเลยตัดสินใจหาไมโครโฟนที่สามารถเสียบแล้วใช้งานได้ทันที นี้คือสิ่งแรกที่ผมตั้งเป็นคุณสมบัติที่ผมต้องการ
และนี่คือ FIFINE K658 เป็นไดนามิกไมโครโฟนที่น่าสนใจมากๆ ในยุคของการทำ Podcast แบบนี้ครับ โดยมันมาพร้อมกับ USB type-C ที่สามารถ Plug-and-Play บนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของเราแล้วสามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องลง Driver เพิ่มเลยละครับ ซึ่งนับว่าสะดวกสบายมากๆ เลยครับ
สเปคของไมโครโฟน
- ไมโครโฟนประเภท Dynamic มี Polar Pattern เป็นแบบ Cardioid
- การเชื่อมต่อแบบ USB Type-C to Type-A
- คลื่นความถี่ของเสียงระหว่าง 70Hz-15KHz
- ความ Sensitive ที่ -50±3dB
- น้ำหนัก 1.0 กิโลกรัม
- มีเสียงไฟ RGB เพิ่มความเป็นเกม
เมอร์ - มีรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร เพื่อการ Monitor เสียงจากตัวไมโครโฟน
ของที่ให้มากับกล่อง
เมื่อเราเปิดกล่องมา ก็จะสัมผัสได้ถึงความพรีเมียมครับ กล่องดูสวยงาม มีการใส่โฟมกันกระแทกมาอย่างดี อาจจะงงๆ หน่อยว่าแกะกล่องยังไง แต่ก็ไม่ได้ยากมาก แค่ต้องค่อยๆ เลือนกรอบด้านนอกออกครับ ในส่วนของของที่ให้มาก็จะมี
- ไมโครโฟน FIFINE K658
- Shock Mount เอาไว้กันการสั่นสะเทือนที่จะทำให้เกิดเสียงรบกวน
- Tripod Stand ที่วางตัวไมโครโฟนและ Shock Mount มาแบบอะลูมิเนียม แข็งแรงดีมาก
- สายสัญญาณแบบ Type A to Type C USB Cable
แต่ว่าที่ผมอยากจะขอเตือนตรงนี้ก่อนนะครับ ว่าเจ้า Tripod Stand ที่แถมมาให้กับกล่อง ผมเองก็ไม่ค่อยได้ใช้งานเพราะว่ามี Boom Arms จากไมโครโฟนตัวก่อนอยู่ ซึ่งเราสามารถใช้งานกับไมโครโฟนตัวนี้ได้นะครับ และเนื่องจากว่าตัว Tripod Stand อาจจะเล็กไปหน่อย พอเอาไมโครโฟนมาเสียบใช้งาน ก็อาจจะมีการคว่ำกันบ้าง เพราะน้ำหนักมันจะเยอะขึ้นครับ ทางที่ดีก็ลองหา Boom Arms มาไว้ใช้งานก็จะดีว่าครับ
รูปร่างของตัวไมโครโฟน
เป็นรูปทรงกระบอกที่มีไฟ RGB ติดด้านใต้ของตัวไมโครโฟน เหมาะกับเกม
การรับเสียงของไมโครโฟน
ด้วยความสามารถของไมโครโฟนแบบไดนามิก มันจะทำหน้าที่ในการเก็บเสียงจากปลายหัวด้านบนครับ ซึ่งมันจะทำให้เจ้าไมโครโฟนตัวนี้รับเสียงแบบแคบ นั้นเองจะทำให้เสียงรบกวนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเสียงแอร์ หรือเสียงนกร้องนอกบ้านก็จะถูกตัดออกไปมากขึ้นกว่าคอนเดนเซอร์ไมโครโฟนครับ เพราะแบบนี้ระยะที่เขาแนะนำในการใช้งานในการพูดคือ 15-20 เซนติเมตร โดยวัดระยะจากปากเราถึงปลายกระบอกไมโครโฟนครับ เราก็จะได้เสียงที่ดีและชัดมาที่สุด หากห่างไปก็จะได้ยินเบาลง ใกล้ไปเสียงก็จะแตกครับ
งานที่เหมาะกับ FIFINE K658
งานที่เหมาะกับเจ้าไมโครโฟนตัวนี้เลย คืองานที่ต้องใช้ความชัดเจนของเสียงครับ พวกงาน Podcast หรือการ Streaming ต่างๆ ทั้ง Live เล่นเกม หรือทำรายการพูดคุย เพราะไมโครโฟนตัวนี้มันสามารถเก็บเสียงได้ดีในระยะใกล้ๆ และแคบ ทำให้เสียงรอบข้างที่จะมาทำลายบรรยากาศของรายการเรานั้นน้อยลงครับ
จากการใช้งานมาร่วมหลายเดือน ผมเองก็รู้สึกว่าเจ้า FIFINE K658 เป็นไมโครโฟนแบบไดนามิกที่น่าลองใช้งานมากๆ ด้วยราคาที่ต่างจากรุ่นอื่นๆ ในตลาดของไดนามิกไมโครโฟน ทำให้เจ้า FIFINE K658 ดูโดดเด่นและน่าสนใจในการทำงาน Podcast และ Streaming ขั้นเริ่มต้นครับ
ราคา
FIFINE K658 USB Dynamic Cardioid Microphone อยู่ที่ราคา 3,490 บาท
หากใครสนใจก็ลองหาข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อได้นะครับ