ผมเองเชื่อว่าใครหลายคนในที่นี้นั้นต่างเป็นแฟนคลับศิลปินเกาหลีอย่างน้อย 1 วงอย่างแน่นอน และเช่นเดียวกัน ผมเองก็เป็นแฟนคลับ(หรือจะเรียกว่าเป็นติ่ง)ของวง Girl Group เกาหลีหลายวงมาก เช่น Blackpink หรืออย่าง Twice ทุกคนต่างเฝ้ารอคอยการ Come Back หรือการปล่อยอัลบั้มใหม่แต่ละทีก็เรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์อย่างมากในแต่ละครั้ง แต่ถึง ณ จุดนี้ผมอยากจะลองถามท่านผู้อ่านว่า เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเพลงของศิลปินเกาหลีถึงต้องมีเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นด้วย หรือแม้แต่กระทั้ง Music Video ก็ต้องมีเวอร์ชั่นที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นแรก

ในบทความของ TamKung วันนี้ จะมาหาคำตอบไปพร้อมกัน ว่าทำไมเพลงเกาหลีหลายวงต้องมีเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น?

หากเราพูดถึงตลาดเพลงที่สำคัญของโลก เราก็จะได้ยินชื่อของสหรัฐฯ มาเป็นอันดับที่ 1 ใช่ไหมละครับ ถ้าหากเราจะตีตลาดขนาดใหญ่แบบนั้นจากคนละซีกโลก ผมเองก็มองว่าน่าจะตีตลาดได้ค่อนข้างยาก แต่ถ้าเรามองอันดับที่ 2 นั้นคือประเทศญี่ปุ่นนั้นเอง ซึ่งนั้นเองก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่ว่า ทำไมเพลงหรือวงการเกาหลีต้องเพิ่มทั้งเพลง และ Music Video เวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นเพื่อตีตลาดเพลงในญี่ปุ่นนั้นเอง

โดยถ้าถามว่าตลาดเพลงของญี่ปุ่นนั้นใหญ่มากแค่ไหน ก็อยากจะบอกแค่ว่าอยู่ในอันดับ 2 ของโลก รองจากตลาดของสหรัฐฯ โดยในแต่ละปีตลาดของญี่ปุ่นเองก็ถือได้ว่าทำกำไรได้ค่อนข้างมาก ขณะที่ตลาดวงการเพลงของเกาหลีอยู่ที่อันดับที่ 6 ของโลก ซึ่งนั้นก็ทำให้หลายบริษิทเพลง หรือศิลปินเลือกที่จะเพิ่มเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นเข้าไป โดยสถิติในปี 2021 ประเทศญี่ปุ่นทำกำไรจากวงการเพลงกว่า 2,727.5 ล้านเหรีญสหรัฐฯ ครับ

นอกจากเรื่องของกำไรที่สามารถทำได้ค่อนข้างมาก และตลาดที่ใหญ่แล้ว อย่างไรก็ตาม การแปลงานภาษาเกาหลีเป็นเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นนั้นมีหลายขั้นตอน รวมถึงการแปลระหว่างภาษา การแนะนำรูปแบบหรือสุนทรียศาสตร์ใหม่ การเปิดตัวเพลงและวงจรการตลาดกับการส่งเสริมการขายใหม่ทั้งหมด การเดบิวต์ในญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จโดยศิลปินเกาหลีต้องเชี่ยวชาญการแปลพร้อมกันเหล่านี้เพื่อดึงดูดฐานแฟน ๆ ต่างประเทศที่กำลังเติบโตนั้นเองครับ

โดยหากเราอยากรู้ที่มาที่ไป เราคงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยปี 2000 เลยทีเดียวล่ะครับ โดยอย่างปรากฏการณ์ความบันเทิงเกาหลีในญี่ปุ่นค่อนข้างใหม่กับ BoA ซึ่งก็กลายเป็นนักร้องเกาหลีคนแรกที่ติดอันดับชาร์ตเพลงญี่ปุ่นในปี 2002 ด้วยบทเพลงอย่าง Listen to My Heart ซึ่งอัลบั้มญี่ปุ่นเปิดตัวของเธอก็เป็นการปูทางให้กลุ่มรุ่นที่ 2 รวมถึงวง Girls' Generation KARA และ BIGBANG ประสบความสำเร็จในช่วงต้นปี 2000 ด้วยเช่นกันครับ เพราะว่ากลุ่มเหล่านี้มีความสูงใหม่ในตลาดและกลายเป็นสิ่งประจำในสื่อญี่ปุ่น เช่น ไปออกรายการวาไรตี้โชว์และโฆษณานั้นเองครับ

ความสำเร็จของกลุ่มเหล่านี้มันก็น่าประทับใจยิ่งขึ้นในบริบทของ J-pop และวัฒนธรรมไอดอลของญี่ปุ่นครับ แต่เนื่องจากความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง K-pop และ J-pop คือเสียงและการผลิตที่ต่างกัน ในขณะที่เพลงเกาหลีก็มีแนวโน้มที่จะตามกระแสของตะวันตก ตั้งแต่เพลงอิเล็กทรอนิกเฮาส์ของยุโรปไปจนถึง R&B ของอเมริกา 

อีกเรื่องหนึ่งที่ใครหลายคนสงสัยนั้นคือ "ทำไมใน Music Video ของทั้ง 2 เวอร์ชั่นถึงมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง" ใช่ครับ หากใครที่ได้ลองเข้าไปรับชม Music Video ของทั้ง 2 เวอร์ชั่นโดยที่เป็นเพลงเดียวกันแล้วละก็ เราก็จะได้เห็นมุมภาพหรือบรรยากาศที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นจากทางเกาหลีเองครับ

สิ่งหนึ่งที่ผมนั้นคิดว่าน่าจะเป็นคำตอบได้นั้นคือ ด้านวัฒนธรรมการเสพงานครับ ถึงตรงนี้อาจจะไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ถ้าให้พูดง่าย ๆ นั้นคือโดยทั่วไปแล้ว กลุ่มไอดอลหญิงในญี่ปุ่นนั้นควรดูอ่อนเยาว์และน่ารักเพื่อดึงดูดผู้ชมที่เป็นโอตาคุครับ (โอตาคุจะมีความหมายประมาณว่า เป็นบุคคลที่มีความสนใจอย่างคลั่งไคล้เกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง) โดยแนวคิดญี่ปุ่นที่ว่าจะต้อง "คาวาอิ" มันเลยเป็นมาตรฐานสำหรับไอดอลที่มองเห็นได้ครับ ในทางกลับกัน ไอดอลหญิงชาวเกาหลีใต้นั้นดูเป็นผู้ใหญ่และมีเสน่ห์ทางเพศมากกว่า ความแตกต่างนี้ชัดเจนเมื่อกลุ่ม re-purpose สำหรับตลาดญี่ปุ่นนั้นเองครับ

ทีนี้กระแสความบันเทิงทางดนตรีที่ตรงกันข้ามของญี่ปุ่นถึงเกาหลีนั้น ก็เป็นปรากฏการณ์ที่มีการตรวจสอบน้อยกว่า มีหลายเหตุผลที่บริษัทแผ่นเสียงของญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการส่งออกเพลงไปยังตลาดอื่น ๆ น้อยลง เหตุผลหนึ่งก็คือสิ่งที่เป็นสิ่งตรงกันข้ามกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยญี่ปุ่นจะติดตามกฎหมายลิขสิทธิ์และการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเคร่งครัดมากกว่า อีกเหตุผลหนึ่งที่จะทำอย่างไรกับการเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ในช่วงต้นยุค 2000 ซึ่งค่ายญี่ปุ่นช้าที่จะนำมาใช้ รวมทั้ง iTunes และ YouTube สิ่งนี้น่าประหลาดใจเมื่อพิจารณาถึงความเป็นเจ้าโลกของญี่ปุ่นในภูมิภาคนี้ และการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมอื่นๆ ไปทั่วโลก เช่น มังงะและอนิเมะที่ประสบความสำเร็จครับ

ผมเองก็มองว่าโดยรวมแล้ว วงที่เดบิวต์ในญี่ปุ่นทำเพื่อขยายฐานแฟนต่างประเทศ มันก็จำเป็นต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างตลาดเพื่อให้ประสบความสำเร็จ แฟน ๆ ทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่นต่างคาดหวังถึงระดับของความแปลกใหม่ในการเดบิวต์ในญี่ปุ่น แนวคิดและดนตรีใหม่ ๆ มีความสำคัญต่อความสำเร็จของกลุ่มนั้นเองครับ

เอาตามตรงแล้วผมก็รู้สึกเป็นอะไรที่ดีสำหรับเหล่าแฟนคลับครับ เพราะเนื่องจากเราเองจะได้เห็นถึงความแตกต่างของทั้ง 2 เวอร์ชั่น อาจจะได้เห็นภาพมุมกล้องที่ไม่มีในเวอร์ชั่นเกาหลี และอาจจะได้เห็นมุมน่ารัก ๆ ของศิลปินด้วยเช่นกันนะครับ

ข้อมูลอ้างอิง

https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_largest_recorded_music_markets

https://www.nippon.com/en/japan-data/h00740/

https://www.kpopdiaries.com/2020/08/17-japanese-songs-by-kpop-idols.html