ผมเชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายคนต้องเคยผ่านช่วงเวลาวัยรุ่นกับความรักครั้งแรกของเราเอง แต่ว่าเคยสงสัยไหมว่า “ทำไมรักครั้งแรกของเราถึงลืมยาก” หลายคนอาจจะเคยเป็นหรือหลายคนอาจจะไม่รู้ ว่ามันเรื่องจริงหรือความคิดของเราที่พามันไป ในบทความของ TamKung วันนี้เราจะลองมาหาคำตอบกันว่าทำไมเราถึงลืมรักแรกของเราไม่ได้

{tocify} $title={Table of Contents}

ก่อนอื่นต้องมารู้จักกับ Oxytocin หรือฮอร์โมนออกซิโทซิน ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นฮอร์โมนแห่งความรักครับ โดยที่มันจะเป็นตัวช่วยให้เรานั้นสามารถใกล้ชิดกัน และก่อเกิดเป็นเรื่องความสัมพันธ์ได้ และยังมีความสามารถในการลดความยับยั้งชั่งใจของเรา ในการเปิดใจและไว้วางใจกับผู้อื่นมากยิ่งขึ้น และการกระทำง่ายๆ เพื่อการแสดงออกถึงความรัก อย่างการกอด จูบ ที่จะสามารถสร้างพันธะทางเคมีกับคนที่เรารักได้

รักครั้งแรกอาจจะเป็นตัวแทนของเราในวัยเด็ก ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ก็มองว่ามันเป็นความรักและความปราถนาดีมากกว่า เมื่อเราได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้กับใครคนแรก ก็อาจจะเป็นเรื่องยากที่เราจะลืมคนคนนั้นและเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และนอกจากมันจะมาจากความรู้สึกของเราแล้ว มันยังมีผลต่อสมองของเราจริงๆ ครับ

  • ความรักคือการเสพติด

เขาว่ากันว่า “ความรักคือการเสพติด” ซึ่งจริงๆ แล้วร่างกายของเราจะผลิตสารจำพวกสารเสพติดขึ้นมา ทั้งเอ็นดอร์ฟิน โดปามีน และเซโรโทนิน โดยที่ว่านั้นคือสารเคมีที่เราไว้ผลิตยาเสพติดในโลกของเราครับ เพียงสิ่งเหล่านี้มันถูกสมองของเราเรียนรู้และได้ผลิต ปลดปล่อยในร่างกายของเราเท่านั้น และไม่ได้มีความอันตรายต่อร่างกาย แต่แค่จะส่งผลต่อความคิดของเราเท่านั้นครับ ซึ่งต่อจากการรับสารเคมีเหล่านี้ มันจะทำให้เกิดความรู้สึกดี ที่จะทำให้เราอิ่มอกอิ่มใจ โดยเฉพาะหากได้รับการสัมผัสทางกายนั้นเองครับ

มีผลการวิจัยจาก Front Neurosci อันหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ โดยเขาได้เขียนและแปลได้ว่า “สารสื่อประสาทจะหลั่วออกมามากขึ้น เมื่อมีเพศสัมพันธ์ เมื่อเราประสบกับสิ่งเหล่านี้ในช่วงวัยรุ่น เส้นทางของความคิดในสมองก็อาจจะมีความหวั่นไหวเป็นพิเศษ และนับว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจ” ซึ่งมันมีผลส่งต่อความทรงจำและสารเคมีในสมองจะยิ่งทำให้จดจำ และเป็นการเสพติดครับ

  • ความรักครั้งแรกมันทิ้งความทรงจำที่ฝังแน่นในสมองของเรา

การที่เรานั้นไม่อาจลืมรักครั้งแรกได้นั้น มันเป็นผลมาจากการทิ้งความทรงจำให้ฝังลึกอยู่ในสมองของเรา ซึ่งจะติดอยู่ในบริเวณประสาทสัมผัสของสมองของเรา โดยมันเป็นเพราะอาจจะมาจากช่วงวัย หากเป็นช่วงวัยรุ่นก็จะเป็นช่วงเวลาที่ความจำและพลังการประมวลผลของเราอยู่ที่จุดสูงสุด ในช่วงเวลานี้ความจำของเราแข็งแกร่งขึ้นมาก และเราจะมีแนวโน้มที่จะจดจำประสบการณ์การตกหลุมรักได้เต็มตามากขึ้นครับ

และความทรงจำเหล่าน้ีก็อาจจะถูกกระตุ้นขึ้นมาได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เราได้เห็นรูปภาพหรือสถานที่ที่เคยมีความทรงจำร่วมกัน ก็จะทำให้เรารู้สึกถึงเรื่องราวในอดีตได้

  • ความรักครั้งแรกมันมีผลต่อชีวิตของเราในตอนนี้และอนาคต

หากเราได้รับความรักแบบเชิงบวก หรือประสบการณ์ที่ดีแล้ว เราเองมักจะพยายามอย่างมากเพื่อให้ความทรงจำเหล่านั้นอยู่กับเรามากที่สุด จะมีใครไม่ชอบความรักที่เราจะรู้สึกดีใช่ไหมละครับ นอกจากนี้ยังเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนทั่วไปถึงพยายามยึดติดกับความรักครั้งแรกอยู่ แม้ว่าจะจบความสัมพันธ์นั้นมานานแล้วก็ตาม ซึ่งก็อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องของ “รูปแบบพฤติกรรมสำหรับความสัมพันธ์ในอนาคต” โดยเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเรียนรู้ว่า เราชอบอะไรและมันจะพยายามหามาให้ได้ซึ่งในสิ่งที่คุณชอบอีกครั้งหนึ่ง

ความรักครั้งแรกของเรากลายเป็นกรอบในการตัดสินความสัมพันธ์ในอนาคต ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ยังคงอยู่ในความทรงจำของเรา เข้าถึงได้ง่ายและไม่ลืม และหากเรายิ่งเอาเรื่องราวในอดีตมาเปรียบเทียบกับเรื่องอนาคต มันจะยิ่งกระตุ้นระบบประสาท ความทรงจำและสารเคมีในสมองที่เกียวกับความรักให้ยังคงทำงานอยู่ และจะยิ่งดึงเอาความทรงจำกลับมาให้เรานึกถึงนั้นเอง

เพียงเพราะรักครั้งแรกของเรานั้นจะลืมยาก แต่ก็ใช่ว่าความรักที่เราเคยไปยืนอยู่ในนั้นเป็นรักที่แท้จริง และไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้นะครับ แต่ผมเองกก็รู้ว่าการตัดสินใจก้าวออกจากความทรงจำครั้งนั้นมันยาก ซึ่งก็อาจจะใช้เวลานานหลายเดือน ไปจนถึงหลายปีก็ได้ แต่ผมอยากจะแนะนำวิธีที่ผมได้ใช้และได้ให้คำปรึกษาเพื่อนๆ อยู่หลายครั้ง ว่าจะทำอย่างไรเพื่อจัดการกับความทรงจำหรือการกระทำเมื่อความสัมพันธ์จบลงแล้ว

สิ่งแรกที่เราควรจะทำ คือการบอกลากับเรื่องราวทั้งหมด ทั้งรูปภาพ สิ่งของต่างๆ เราอาจจะเคยเห็นในภาพยนตร์ที่ว่าเอาของทุกกอย่างไปเผาทิ้ง หรือเอาไปคืนที่คนนั้น ซึ่งผมว่ามันก็เป็นวิธีที่ดี เพราะยิ่งเราเก็บของเหล่านี้ไว้นานเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งลืมยาก เมื่อกลับมามอง เดี๋ยวเดียวเราก็จำได้ ลบรูปภาพที่เราโพสต์ไว้ใน Facebook หรือ Instagram แม้ว่าอาจจะรู้สึกเสียดาย แต่เดี๋ยวเราจะดีขึ้นเองครับ

สิ่งต่อมาคือ คนเราสามารถร้องไห้ได้นะครับ ถึงเวลาที่ต้องปลดปล่อยปัญหาออกมา แม้ว่าเราจะเป็นคนที่เข้มแข็งแค่ไหน การร้องไห้ก็เป็นทางช่วยให้เรานั้นผ่อนคลายและดีขึ้นครับ การได้ระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ภายในก็เป็นทางออกที่ดีเช่นกัน ลองหาเพื่อนที่ไว้ใจ้ เล่าเรื่องที่เก็บไว้ในส่วนลึกของความคิดของเราดูครับ อาจจะเป็นทางออกที่ดีในการปลดปล่อยปัญหาต่างๆ ผมเชื่อว่าถึงจุดนั้น เพื่อนของเราจะยังคงอยู่กับเราครับ

และสิ่งต่อมาคือการเตรียมความคิดและสมองของเราให้เข้าสู่ปัจจุบัน ลองคิดในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์กับตัวเราครับ คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเราบ้าง คิดว่าเราแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อการก้าวไปข้างหน้า และสิ่งเหล่านี้จะเป็นจุดที่ช่วยให้เราหันเหความคิด จากการคิดถึงคนคนนั้น กลายเป็นคิดเพื่อตัวเราเองจริงๆ แทนที่จะถอยกลับไปนึกถึงอดีต และแม้ว่าเราจะยังไม่ลืมความรักครั้งแรกได้ แต่ตัวเราเองและความคิดจะสามารถเอาชนะมันได้ และจะกลับไปมองมันเป็นเพียงแค่ความทรงจำครั้งหนึ่งเท่านั้นละครับ

หากเพื่อนๆ มีประสบการณ์หรือวิธีการในการจัดการความคิดเกี่ยกกับเรื่องราวความรักครั้งแรกอย่างไร ก็สามารถมาแบ่งปันกันได้ในช่องแสดงความคิดเห็นได้เลยนะครับ เพราะว่าทั้งบทความที่ผมได้เขียนในวันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของความคิดและประสบการณ์ที่ผมได้เจอมาเท่านั้น และยังต้องการการเรียนรู้จากคนอื่นๆ อยู่นะครับ