เมื่อลมหนาวพัดมาเยือนและเสียงเพลง Jingle Bells เริ่มดังขึ้นตามห้างสรรพสินค้า แม้ว่าประเทศจีนจะไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์เป็นหลักและวันคริสต์มาสไม่ได้เป็นวันหยุดราชการ แต่บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองก็แทรกซึมเข้าไปในวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ "คริสต์มาส" ในมุมมองของจีน ที่ผสมผสานทั้งคำศัพท์น่ารู้ วัฒนธรรมการกินที่ไม่เหมือนใคร และย้อนรอยประวัติศาสตร์การเดินทางของศาสนาคริสต์สู่แผ่นดินจีน
1. คำศัพท์คริสต์มาสน่ารู้ (Shengdan Vocabulary)
ก่อนอื่น เรามาเริ่มกันที่คำศัพท์พื้นฐานที่ใช้กันบ่อยๆ ในช่วงเทศกาลนี้กันครับ
วันคริสต์มาส
ภาษาจีน: 圣诞节
พินอิน: Shèngdàn Jié (เซิ่ง-ต้าน-เจี๋ย)
เกร็ดภาษา: คำว่า Shèng (圣) หมายถึง "ศักดิ์สิทธิ์/นักบุญ", Dàn (诞) หมายถึง "การเกิด/ประสูติ", และ Jié (节) หมายถึง "เทศกาล"
ซานตาคลอส
ภาษาจีน: 圣诞老人
พินอิน: Shèngdàn Lǎorén (เซิ่ง-ต้าน-เหล่า-เหริน)
ความหมาย: แปลตรงตัวได้น่ารักมากว่า "ชายแก่แห่งวันคริสต์มาส"
ต้นคริสต์มาส
ภาษาจีน: 圣诞树
พินอิน: Shèngdàn Shù (เซิ่ง-ต้าน-ซู่)
คริสต์มาสอีฟ (คืนก่อนวันคริสต์มาส)
ภาษาจีน: 平安夜
พินอิน: Píng'ān Yè (ผิง-อัน-เย่)
ความหมาย: คืนแห่งความสงบสุข (Silent Night)
ทำไมคนจีนต้องให้ "แอปเปิ้ล" ในวันคริสต์มาส?
หากคุณมีเพื่อนคนจีน คุณอาจจะเคยได้รับของขวัญเป็นแอปเปิ้ลลูกสวยที่ห่อด้วยกระดาษสีฉูดฉาดในคืนวันคริสต์มาสอีฟ นี่ไม่ใช่ธรรมเนียมของฝรั่ง แต่เป็น "นวัตกรรมทางวัฒนธรรม" ของจีนแท้ๆ ครับ
ธรรมเนียมนี้เกิดจากการเล่นคำพ้องเสียง (Homophone) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของภาษาจีน:
วันคริสต์มาสอีฟ ภาษาจีนเรียกว่า "Ping'an Ye" (平安夜) ซึ่งแปลว่า คืนแห่งความปลอดภัย/สันติสุข
คำว่า แอปเปิ้ล ภาษาจีนคือ "Ping Guo" (苹果)
เสียง "Ping" ของทั้งสองคำนี้พ้องกัน
ดังนั้น คนจีนจึงเรียกแอปเปิ้ลที่มอบให้กันในคืนนี้ว่า "Ping'an Guo" (平安果) หรือ "ผลไม้แห่งสันติภาพ" การมอบแอปเปิ้ลจึงมีความหมายแฝงว่า "ขอให้เธอปลอดภัยและมีความสุขตลอดปี" นั่นเอง
ย้อนรอยประวัติศาสตร์: คริสต์มาสมาถึงจีนตั้งแต่เมื่อไหร่?
หลายคนอาจเข้าใจว่าศาสนาคริสต์เพิ่งเข้ามาในจีนเมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี้พร้อมกับชาติตะวันตกยุคล่าอาณานิคม แต่ในหน้าประวัติศาสตร์จีน ศาสนาคริสต์เดินทางมาถึงเร็วกว่านั้นมากครับ!
ยุคราชวงศ์ถัง จุดเริ่มต้น (ค.ศ. 635)
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนที่สุดคือ "จารึกเนสตอเรียน" (Nestorian Stele) ซึ่งค้นพบในเมืองซีอาน จารึกนี้บันทึกว่า นักบวชชาวเปอร์เซียชื่อ อะโลเปน (Alopen) ได้เดินทางเข้ามาเผยแผ่ศาสนาคริสต์นิกายเนสตอเรียน ในสมัย จักรพรรดิถังไท่จง (ยุคทองของราชวงศ์ถัง)
ในสมัยนั้น ศาสนาคริสต์ถูกเรียกว่า "จิ่งเจี้ยว" (景教 - Jǐngjiào) หรือ "ศาสนาแห่งแสงสว่าง" วัดคริสต์ถูกสร้างขึ้นและได้รับอนุญาตให้เผยแผ่ศาสนาได้ แม้ว่าต่อมาจะเสื่อมความนิยมลง แต่ก็นับเป็นจุดแรกเริ่มที่ชาวจีนได้สัมผัสกับเรื่องราวของพระเยซู
ยุคราชวงศ์หมิงและชิง การกลับมาของหมอสอนศาสนา
ในยุคต่อมา บาทหลวงนิกายเยซูอิต (Jesuit) อย่าง มัตเตโอ ริกชี (Matteo Ricci) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ไม่ใช่แค่เรื่องศาสนา แต่เป็นการนำวิทยาการตะวันตก ดาราศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เข้าสู่ราชสำนักจีน ทำให้เทศกาลคริสต์มาสเริ่มเป็นที่รู้จักในวงแคบๆ ของกลุ่มขุนนางและปัญญาชน ก่อนที่จะแพร่หลายสู่สามัญชนในยุคหลัง
เทศกาลคริสต์มาสในจีนปัจจุบัน แม้ภาพลักษณ์ภายนอกจะดูเป็นการเฉลิมฉลองเชิงพาณิชย์ มีการช้อปปิ้ง และการเดตของหนุ่มสาว แต่ลึกลงไปในรายละเอียด เรายังเห็นการปรับตัวของวัฒนธรรมจีนที่นำเอาภาษา (การเล่นคำเรื่องแอปเปิ้ล) มาสร้างความหมายใหม่ รวมถึงรากฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่าพันปี
ดังนั้น หากคริสต์มาสนี้คุณอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศ ลองส่งแอปเปิ้ลให้เพื่อนพร้อมพูดว่า "Shèngdàn Jié Kuàilè" ดูสิครับ รับรองว่าเท่และมีความหมายแน่นอน