หนีห่าวครับทุกคน หลังจากเราไปตะลุยกำแพงเมืองจีนและช้อปปิ้งที่หวังฝูจิ่งกันมาแล้ว วันนี้ผมขอพาเปลี่ยนบรรยากาศมาเข้าวัดวาอารามเพื่อสัมผัสความยิ่งใหญ่และความศักดิ์สิทธิ์กันที่ หอฟ้าเทียนถาน หรือ Temple of Heaven ครับ ที่นี่คือแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องมาเยือน เพราะนอกจากความงดงามของสถาปัตยกรรมหลังคาสีน้ำเงินที่ตัดกับท้องฟ้าแล้ว ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์และปรัชญาจีนที่ลึกซึ้งอีกด้วย ตามผมมาสำรวจกันเลยครับ

[review name="หอฟ้าเทียนถาน" score="4.6" open="08:00-17:30" map="https://goo.gl/maps/E7PFZLgnLTXTWYtD8"]

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ แท่นบูชาแห่งโอรสสวรรค์

หอฟ้าเทียนถานสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1420 ตรงกับสมัยราชวงศ์หมิง โดยจักรพรรดิหย่งเล่อ ซึ่งเป็นองค์เดียวกับที่สร้างพระราชวังต้องห้าม ในอดีตนั้นฮ่องเต้เปรียบเสมือนโอรสสวรรค์ สถานที่แห่งนี้จึงมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง โดยจักรพรรดิจะเสด็จมาประกอบพิธีบวงสรวงเทพยดาฟ้าดิน เพื่อขอพรให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล พืชผลทางการเกษตรอุดมสมบูรณ์ และให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขครับ

[readmore link="https://www.tamkung.me/2025/12/1412893703557452141.html"]

ไฮไลท์ห้ามพลาดและปรัชญาที่ซ่อนอยู่

พื้นที่ของหอฟ้าเทียนถานนั้นกว้างใหญ่มาก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 205 เฮกตาร์ หรือประมาณ 1,280 ไร่ ซึ่งใหญ่กว่าพระราชวังต้องห้ามเสียอีก การออกแบบของที่นี่ยึดหลักปรัชญา ฟ้ากลม ดินเหลี่ยม อย่างเคร่งครัด สังเกตได้จากกำแพงด้านเหนือจะโค้งมนแทนสัญลักษณ์ของฟ้า ส่วนกำแพงด้านใต้จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมแทนสัญลักษณ์ของดิน

จุดเช็คอินแรกที่ถือเป็นพระเอกของงานคือ วิหารขอพรเพื่อการเก็บเกี่ยว หรือ Hall of Prayer for Good Harvests อาคารไม้ทรงกลมสูง 38 เมตรที่ตั้งตระหง่านอยู่บนฐานหินอ่อน 3 ชั้น จุดเด่นอยู่ที่หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของท้องฟ้า ตัดกับลวดลายมังกรและหงส์สีทองบนอาคารสีแดงอย่างงดงาม ความน่าทึ่งทางสถาปัตยกรรมคือโครงสร้างภายในใช้เสาไม้ขนาดใหญ่รองรับน้ำหนักทั้งหมดโดยไม่มีการใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ซึ่งแสดงถึงภูมิปัญญาอันยอดเยี่ยมของคนโบราณ

ถัดมาทางทิศใต้คือ แท่นบูชาเทียนหยวน หรือ Circular Mound Altar ซึ่งเป็นลานสื่อสารกับสวรรค์ ลักษณะเป็นลานหินอ่อนเปิดโล่งทรงกลม 3 ชั้น ล้อมรอบด้วยลูกกรงหินแกะสลักสวยงาม สถานที่นี้เคยใช้เป็นที่ประกอบพิธีสักการะฟ้าในช่วงฤดูหนาว มีความเชื่อเล่าขานกันว่า ณ ใจกลางของแท่นบูชาจะมีหินวงกลมแผ่นหนึ่งเรียกว่า หินใจกลางสวรรค์ หากใครได้ไปยืนขอพรตรงจุดนั้น เสียงของผู้นั้นจะดังก้องไปถึงสวรรค์เลยทีเดียว

บริเวณใกล้เคียงกันมี กำแพงเสียงสะท้อน หรือ Echo Wall ล้อมรอบแท่นบูชาเทียนหยวนอยู่ ความมหัศจรรย์ของกำแพงทรงกลมนี้คือผิวที่เรียบเนียนและโค้งรับกันอย่างสมบูรณ์แบบ หากลองให้เพื่อนไปยืนคนละฝั่งของกำแพงแล้วกระซิบเบาๆ อีกฝั่งจะได้ยินเสียงชัดเจนราวกับยืนอยู่ข้างกัน เป็นจุดที่น่าทดลองเล่นดูครับ นอกจากนี้ยังมี พระตำหนักเตรียมพิธี หรือ Palace of Abstinence ซึ่งในอดีตก่อนเริ่มพิธี ฮ่องเต้จะต้องมาประทับเพื่อถือศีลกินเจ ชำระล้างร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ที่นี่ก่อน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพสูงสุดต่อสวรรค์

ปอดสีเขียวแห่งปักกิ่ง

นอกจากสถาปัตยกรรมอันเลื่องชื่อแล้ว อีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี่คือบรรยากาศความร่มรื่น เปรียบเสมือนปอดขนาดใหญ่ของปักกิ่งด้วยต้นไม้กว่า 60,000 ต้น และมีต้นสนโบราณอายุนับร้อยปีถึง 3,500 ต้น หากคุณมาเยือนในช่วงเช้าจะได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวปักกิ่งแท้ๆ ที่ออกมารำไทเก็ก เล่นว่าว ร้องเพลง หรือจับกลุ่มพูดคุยกัน เป็นภาพที่น่ารักและอบอุ่นที่หาชมได้ยากในเมืองใหญ่

การเดินทาง

การเดินทางมายังหอฟ้าเทียนถานนั้นสะดวกสบายมากด้วยรถไฟใต้ดิน โดยมีสองเส้นทางหลักให้เลือก หากต้องการเข้าทางประตูตะวันออกซึ่งเป็นทางยอดนิยม สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานี Tiantan Dongmen แล้วออกทางออก A1 ก็จะเจอประตูทางเข้าทันที หรือหากสะดวกเข้าทางประตูตะวันตก สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย 8 ลงสถานี Tianqiao แล้วออกทางออก C เดินเพียงเล็กน้อยก็จะถึงครับ

สำหรับการเที่ยวชมที่นี่ แนะนำให้เผื่อเวลาเดินประมาณ 2 ถึง 3 ชั่วโมง เนื่องจากพื้นที่มีขนาดกว้างขวางมาก รองเท้าผ้าใบจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เดินได้อย่างคล่องตัว และอย่าลืมเตรียมกล้องพร้อมเมมโมรี่การ์ดให้พร้อม เพราะมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บภาพความประทับใจมากมาย ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการย้อนรอยประวัติศาสตร์และสัมผัสความยิ่งใหญ่ที่หอฟ้าเทียนถาน เที่ยวให้สนุกและเดินทางปลอดภัย แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าครับ 

[readmore link="https://www.tamkung.me/2025/12/1412893703557452141.html"]